แนวข้อสอบ
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
1. ข้อใดคือเว็ปไซด์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ก. http:// www.mea.or.th ค. http:// www.egat.or.th
ข. http:// www.egat.go.th ง. http:// www.pea.or.th
ตอบ ค. http:// www.egat.or.th
2. ข้อใดคือชื่อภาษาอังกฤษของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ก. Electricity Generating Authority of Thailand
ข. Electricity Authority of Thailand
ค. Provincial Electricity Authority
ง. Metropolitan Electricity Authority
ตอบ ก. Electricity Generating Authority of Thailand (EGAT)
3. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีชื่อย่อว่าอะไร
ก. กปน. ค. กฟผ.
ข. กฟน. ง. กฟภ.
ตอบ ค. กฟผ.
4. ผู้ว่าการ กฟผ. คนแรกคือใคร
ก. นายเกษม จาติกวณิช ค. นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์
ข. นายสมชัย สัจจพงษ์ ง. นายพรชัย รุจิประภา
ตอบ ก. นายเกษม จาติกวณิช
5. ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย คนปัจจุบันคือใคร
ก. นายฐานิสต์ เจนถนอมม้า ค.นายพระนาย สุวรรณรัฐ
ข. กรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ง. นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์
ตอบ ข.กรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์
6. กฟผ. ก่อตั้งขึ้นเมื่อใด
ก. 1 มกราคม 2501 ค. 1 พฤษภาคม 2493
ข. 3 ตุลาคม 2514 ง. 1 พฤษภาคม 2512
ตอบ ง. 1 พฤษภาคม 2512
7. กฟผ. เป็นหน่วยงานประเภทใด
ก. รัฐบาล ค.เอกชน
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ข. รัฐวิสาหกิจ ง.หน่วยงานอิสระ
ตอบ ข.รัฐวิสาหกิจ
8. กฟผ. ได้จัดตั้งขึ้นโดยการรวมหน่วยงานใดเข้าด้วยกัน
ก. การไฟฟ้ายันฮี ค. การไฟฟ้าตะวันออกเฉียงเหนือ
ข. การลิกไนท์ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
กฟผ. จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 โดยการรวมหน่วยงาน ด้านการผลิตและส่งพลังงานไฟฟ้า 3 แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้ายันฮี การลิกไนท์ และการไฟฟ้าตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าเป็นหน่วยงานเดียวกัน มีฐานะเป็นนิติบุคคลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2512
9. กฟ.อน. ย่อมาจากอะไร
ก. การลิกไนท์ ค. การไฟฟ้าตะวันออกเฉียงเหนือ
ข. การไฟฟ้ายันฮี ง. การไฟฟ้าตะวันออก
ตอบ ค. การไฟฟ้าตะวันออกเฉียงเหนือ
การลิกไนท์ ( กลน.) การไฟฟ้ายันฮี (กฟย.) และการไฟฟ้าตะวันออกเฉียงเหนือ (กฟ. อน.)
10. ข้อใดคือหน้าที่ของ กฟผ.
ก. จัดหาพลังงานไฟฟ้าแก่ประชาชนโดยการผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้านครหลวง
ข. จัดหาพลังงานไฟฟ้าแก่ประชาชนโดยการผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ค. จัดหาพลังงานไฟฟ้าแก่ประชาชนโดยการผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้พลังงานไฟฟ้ารายอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งประเทศใกล้เคียง
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
11. “เป็นองค์การชั้นนำในกิจการไฟฟ้าในระดับสากล” คือสิ่งใดของ กฟผ.
ก. วิสัยทัศน์ ค. ยุทธศาสตร์
ข. พันธกิจ ง. ค่านิยม
ตอบ ก. วิสัยทัศน์
วิสัยทัศน์ กฟผ. คือ “เป็นองค์การชั้นนำในกิจการไฟฟ้าในระดับสากล” โดยมีเป้าหมายของการเป็นองค์การชั้นนำรวม 5 ด้าน ประกอบด้วย
- Good Corporate Governance เป็นองค์การที่มีธรรมาภิบาล
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
- High Performance Organization
เป็นองค์การที่มีการบริหารงานที่ดีมีประสิทธิภาพสูง
- Operational Excellence เป็นองค์การที่มีประสิทธิภาพการดำเนินงานเป็นเลิศ
- National Pride เป็นองค์การที่สังคมไว้วางใจและเป็นความภูมิใจของชาติ
- Financial Viability เป็นองค์การที่มีฐานะการเงินมั่นคงเพียงพอต่อการขยายงาน
12. ผลิต จัดหาให้ได้มา จัดส่ง จำหน่าย พลังงานไฟฟ้า และประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่อง รวมถึงการผลิตและขายลิกไนต์ คือสิ่งใดของ กฟผ.
ก. วิสัยทัศน์ ค. ยุทธศาสตร์
ข. พันธกิจ ง. ค่านิยม
ตอบ ข.พันธกิจ
13. ข้อใดคือทิศทางยุทธศาสตร์ของ กฟผ.
ก. เสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก
ข. สร้างการเจริญเติบโตจากธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
ค. เป็นองค์การที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ห่วงใยสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
ทิศทางยุทธศาสตร์ของ กฟผ. ได้แก่
- เสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก
- สร้างการเจริญเติบโตจากธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
- เป็นองค์การที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ห่วงใยสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม
- เป็นองค์การสมรรถนะสูงที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
14. ใครเป็นประธานในคณะกรรมการ กฟผ.
ก. นายสมบัติ ศานติจารี ค. นายพระนาย สุวรรณรัฐ
ข. นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ง. นายคุรุจิต นาครทรรพ
ตอบ ง. นายคุรุจิต นาครทรรพ
15. คณะกรรมการ กฟผ. มีกี่คน
ก. 15 คน ค. ไม่เกิน 10 คน
ข. 11 คน ง. ไม่เกิน 15 คน
ตอบ ข. ไม่เกิน 11 คน
16. ข้อใดคืออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ กฟผ.
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ก. วางนโยบายและควบคุมดูแลกิจการของ กฟผ.
ข. ออกระเบียบหรือข้อบังคับเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
ค. กำหนดราคาขายพลังงานไฟฟ้า ลิกไนท์ วัตถุเคมีจากลิกไนท์และวัสดุอุปกรณ์
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
17. ปัจจุบัน (ปี 2559) กฟผ. มีอายุครบรอบกี่ปี
ก. 42 ปี ค. 44 ปี
ข. 46 ปี ง. 47 ปี
ตอบ ง. 47 ปี
18. “รักองค์การ มุ่งงานเลิศ เทิดคุณธรรม” คือสิ่งใดของ กฟผ.
ก. ค่านิยม ค. ยุทธศาสตร์
ข. พันธกิจ ง. วัฒนธรรม
ตอบ ง. วัฒนธรรม
- รักองค์การ หมายถึง
ผู้ปฏิบัติงานทุกคนมีความรักผูกพันต่อองค์การ มีความสามัคคี เป็นนํ้าหนึ่ง ใจเดียวกัน มีวินัย มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เสียสละ ทุ่มเท อุทิศตนเพื่อ องค์การ ซื่อสัตย์สุจริต รักษาผลประโยชน์และปกป้องชื่อเสียงขององค์การทุกวิถีทาง
- มุ่งงานเลิศ หมายถึง
ผู้ปฏิบัติงานทุกคนมีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล มีการวางแผนงานที่ดีและมุ่งกระทำการด้วยความตั้งใจ ขยันหมั่นเพียร โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ สังคม สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยเป็นสำคัญ พัฒนาตนและพัฒนางานสมํ่าเสมอ เพื่อให้ผลงานมี คุณภาพ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นที่ยอมรับของประชาชน หน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
- เทิดคุณธรรม หมายถึง
กฟผ. ยกย่องชมเชยผู้ประพฤติปฏิบัติตนดีงาม สนับสนุนผู้ปฏิบัติงาน ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต มีจริยธรรมและมีคุณธรรม ประกอบคุณงามความดีให้แก่ประเทศชาติ และ กฟผ. ขจัดการแสวงหาผลประโยชน์และความประพฤติชั่วทั้งปวง ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้ไดผู้หนึ่งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง
19. กฟผ. สังกัดกระทรวงใด
ก. กระทรวงพลังงาน ค. กระทรวงมหาดไทย
ข. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ง. กระทรวงพาณิชย์
ตอบ ก.กระทรวงพลังงาน
20. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คนปัจจุบันคือใคร
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ก. นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ ค.นายณรงค์ชัย อัครเศรณี
ข. พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ ง. นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล
ตอบ ข พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ ตั้งแต่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558
21. ปลัดกระทรวงพลังงาน คนปัจจุบันคือใคร
ก. นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ค.นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม
ข. นายศิริศักดิ์ วิทยอุดม ง. ดร.คุรุจิต นาครทรรพ
ตอบ ค.นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม
22. ข้อใดคือเว็ปไซด์ของกระทรวงพลังงาน
ก. http://www.energy.go.th ค. http:// www.moc.go.th
ข. http://www. energy.co.th ง. http:// www.mof.go.th
ตอบ ก. http://www.energy.go.th
23. ข้อใดคือชื่อภาษาอังกฤษของกระทรวงพลังงาน
ก. Ministry of Tourism & Sports
ข. Ministry of Culture Thailand
ค. Ministry of Energy
ง. Ministry of Interior
ตอบ ค. Ministry of Energy
24. ตราสัญลักษณ์ประจำกระทรวงพลังงานคือรูปอะไร
ก. โลกุตระ ค. งูพันคบเพลิง
ข. ราชสีห์ ง. เสมาธรรมจักร
ตอบ ก. โลกุตระ
25. กระทรวงพลังงานก่อตั้งขึ้นเมื่อใด
ก. 3 ตุลาคม 2545 ค. 29 มิถุนายน 2545
ข. 24 กันยายน 2545 ง. 5 ตุลาคม 2545
ตอบ ก. 3 ตุลาคม 2545
26. ข้อใดคืออำนาจหน้าที่ของผู้ว่าการ กฟผ.
ก. บริหารกิจการให้เป็นไปตามอำนาจของ กฟผ. ตามนโยบาย ระเบียบ หรือข้อบังคับของคณะกรรมการ
ข. บังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้างในการบริหารกิจการ
ค. ออกระเบียบเกี่ยวกับวิธีชำระราคาขายหรือบริการ
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
ตอบ ง. ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
27. การไฟฟ้าในประเทศไทยเริ่มมีขึ้นในสมัยรัชกาลที่เท่าใด
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ก. รัชกาลที่ 4 ค. รัชกาลที่ 6
ข. รัชกาลที่ 5 ง. รัชกาลที่ 7
ตอบ ข.รัชกาลที่ 5
28. บิดาแห่งการไฟฟ้าไทยคือใคร
ก. รัชกาลที่ 5
ข. จอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสงชูโต)
ค. เจ้าพระยาภาสกรวงศ์
ง. พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นเทววงศ์วโรปการ
ตอบ ข.จอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสงชูโต)
29. สถานที่แห่งแรกที่มีไฟฟ้าใช้นับแต่มีไฟฟ้าใช้ในประเทศไทยคือที่ใด
ก. พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ค.พระที่นั่งอนันตสมาคม
ข. พระราชวังดุสิต ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ก. พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
30. องค์กรที่ดำเนินกิจการไฟฟ้าในระยะแรก มีกี่แห่ง
ก. 1 แห่ง ค. 3 แห่ง
ข. 2 แห่ง ง. 4 แห่ง
ตอบ ข.2 แห่ง คือ บริษัทเดนมาร์ก และบริษัทไฟฟ้าสยาม จำกัด
31. แนวทางในการพัฒนาไฟฟ้าของประเทศไทย เน้นเรื่องใด
ก. การพัฒนาอย่างยั่งยืน
ข. มุ่งประสิทธิภาพสูงสุดทั้งด้านการจัดหาพลังงานไฟฟ้า
ค. การจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า สร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชนในการดำเนินงาน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
32. ข้อใดคือวิสัยทัศน์ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
ก. เป็นองค์การชั้นนำในการใช้ไอซีทีอย่างมีคุณภาพ
ข. เป็นองค์การชั้นนำในกิจการไอซีทีอย่างมีคุณภาพ
ค. เป็นองค์การชั้นนำในการใช้ไอซีทีอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ง. เป็นองค์การชั้นนำในกิจการไอซีทีอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ตอบ ค.เป็นองค์การชั้นนำในการใช้ไอซีทีอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
33. แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2556-2560 มีกี่ยุทธศาสตร์
ก. 7 ยุทธศาสตร์ ค. 3 ยุทธศาสตร์
ข. 5 ยุทธศาสตร์ ง. 6 ยุทธศาสตร์
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ตอบ ข.5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนากำลังคนด้านไอซีทีและพนักงานให้มีความสามารถในการสร้างสรรค์ ผลิต และใช้สารสนเทศอย่างมีวิจารณญาณและรู้เท่าทัน
ยุทธศาสตร์ที่ 2 การบริหารจัดการด้านไอซีทีขององค์การอย่างมีธรรมาภิบาล
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไอซีที
ยุทธศาสตร์ที่ 4 การใช้ไอซีทีเพื่อสนับสนุนให้เกิดธรรมาภิบาลในการบริหารและการบริการขององค์การ
ยุทธศาสตร์ที่ 5 การใช้ไอซีทีเพื่อสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน
34. ศูนย์บริการข้อมูล กฟผ. คือหมายเลขใด
ก. 1411 ค. 1416
ข. 1366 ง. 1641
ตอบ ค. 1416
แจ้งเหตุ แจ้งเบาะแส เกี่ยวกับเสาหรือสายส่งไฟฟ้าแรงสูง กด "1" สอบถามข้อมูลข่าวสารหรือติดต่อเจ้าหน้าที่ กด "2" ส่งข้อมูลทางโทรสาร กด "3" ฟังซํ้า กด "#"
35. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่ที่จังหวัดใด
ก. กรุงเทพมหานคร ค. อยุธยา
ข. นนทบุรี ง. สมุทรปราการ
ตอบ ข.นนทบุรี
เลขที่ 53 หมู่ 2 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย นนทบุรี ประเทศไทย 11130
------------------------------------------------------------------
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
แนวข้อสอบ เทคนิคการฝึกอบรม
1. ความหมายของ “การพัฒนา”
ก. เครื่องมือที่ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข. กระบวนการทุกอย่างที่ปรับใหม่ให้มิ่งที่มีอยู่ดีขึ้น
ค. บุคคลทา งานไปทางที่ดีขึ้น
ง. ทา งานให้สอดคล้องกับแผนงาน
คาตอบ ข. กระบวนการทุกอย่างที่ปรับให้มิ่งที่มีอยู่ดีขึ้น
2. การฝึกอบรมตรงกับข้อใด
ก. วิธีการเพิ่มขีดความสามารถแก่พนักงาน
ข. การดูแลพนักงานให้ทา งานเต็มความสามารถ
ค. มีกิจกรรมที่เสริมสร้างให้ลูกน้องสนุกสนาน
ง. วิธีการคลายเครียดในองค์กร
คาตอบ ก. วิธีการเพิ่มขีดความสามารถแก่พนักงาน
3. กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพในการทา งานเฉพาะด้าน ความรู้ ทักษะ ทัศนคติ จัดอยู่ใน
ก. อบรม ข. การพัฒนา
ค. ฝึกฝน ง. การเลียนแบบ
คาตอบ ก. อบรม
4. ข้อใดไม่จัดอยู่ในการฝึกอบรม
ก. เพิ่มทักษะ ข. เพิ่มความรู้
ค. เพิ่มทักษะคติ ง. เพิ่มผลงาน
คาตอบ ง. เพิ่มผลงาน
5. การพัฒนาบุคคลซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งใดมากที่สุด
ก. ระบบงาน องค์กร ข. ระบบงาน คน
ค. ระบบงาน แนวปฏิบัติ ง. ระบบงาน คน องค์กร
คาตอบ ง. ระบบงาน คน องค์กร
6. การกระทา วิธีใดจัดว่าเป็นการพัฒนาบุคคล
ก. การจัดส่งพนักงานไปทา งานนอกสถานที่ ข. การรับพนักงานเข้ามาทดลองงาน
ค. การให้ทุนการศึกษาแก่พนักงาน ง. การคัดเลือกพนักงานดีเด่น
คาตอบ ค. การให้ทุนการศึกษาแก่พนักงาน
7. วัตถุประสงค์ในการฝึกอบรมมี 4 ประการเรียกย่อๆ ว่า
ก. KUSA ข. KURE
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ค. KSUA ง. KASU
คาตอบ ก. KUSA
8. K ความหมายเท่ากับข้อใด
ก. Known ข. Knowledge
ค. Knowness ง. Known-well
คาตอบ ข. Knowledge
9. เพิ่มพูนความเข้าใจ หมายถึง
ก. การเข้าใจความหมายของเรื่องทั่วไป
ข. เมื่อรู้หลักทฤษฎีแล้วสามารถอธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจได้
ค. เรียนรู้และเก็บใจความให้ได้มากที่สุด
ง. สามารถรับได้หลายเรื่องได้อย่างเข้าใจ
คาตอบ ข. เมื่อรู้หลักทฤษฎีแล้วสามารถอธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจได้
10. ข้อใดที่จัดว่าอยู่ใน attitude A.
ก. เคารพต่อผู้บังคับบัญชา ข. ขาดความรับผิดชอบในหน่วยงาน
ค. ใส่ร้ายเพื่อนร่วมงาน ง. มาทา งานสายเป็นประจา
คาตอบ ก. เคารพต่อผู้บังคับบัญชา
11. การฝึกอบรมจะมุ่งเน้นด้านใดต่อองค์กร
ก. ส่วนรวมเพื่อปรับปรุงองค์กร ข. ส่วนบุคคลเพื่องานอย่างใดอย่างหนึ่ง
ค. ปรับตัวเข้ากับองค์กร ง. เลื่อนขั้นและตา แหน่งภายในองค์กร
คาตอบ ข. ส่วนบุคคลเพื่องานอย่างใดอย่างหนึ่ง
12. การฝึกอบรมต้องมีวิธีใดเข้ามาช่วยเพื่อจะบรรลุวัตถุประสงค์
ก. แรงดึงดูด ข. โน้มน้าวจิตใจ
ค. จิตสานึก ง. แรงจูงใจ
คาตอบ ง. แรงจูงใจ
13. ข้อใดไม่จัดอยู่ในความสา คัญของการฝึกอบรม
ก. รับพนักงานใหม่เข้ามาต้องสอนให้รู้งานขององค์การ
ข. สร้างบุคคลที่มีความสามารถมารับรองงาน
ค. พนักงานเรียนรู้งานด้วยตัวเอง
ง. พนักงานมีความคิดล้าหลัง องค์กรจะล้าหลังไปด้วย
คาตอบ ค. พนักงานเรียนรู้งานด้วยตัวเอง
14. บริษัทเจมส์ จา กัด ส่งพนักงานไปเรียนรู้ระบบการใช้เครื่องมือต่างๆ กับบริษัทที่สั่งซื้อ
เครื่องมือใหม่เข้ามา จัดอยู่ในข้อใด
ก. เพื่อเพิ่มพูนความเข้าใจ ข. เพื่อเพิ่มพูนทักษะ
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ค. เพิ่มพูนความรู้ ง. เพิ่มพูนการปฏิบัติ
คาตอบ ข. เพื่อเพิ่มพูนทักษะ
15. ท่านคิดว่าข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องต่อความสา คัญของการฝึกอบรม
ก. การฝึกอบรมจะช่วยให้องค์กรเข้มแข็ง
ข. การฝึกอบรมจะช่วยให้องค์กรเติบโตขยายด้านต่างๆ
ค. การฝึกอบรมบ่อยๆ จะทา ให้บุคลากรปกครองยากขึ้น
ง. การฝึกอบรมบ่อยๆ ทา ให้พนักงานมีความกระตือรือร้น
คาตอบ ค. การฝึกอบรมบ่อยๆ จะทาให้บุคลากรปกครองยากขึ้น
16. ข้อใดคือข้อแตกต่างระหว่างการพัฒนาและการฝึกอบรม
ก. ใช้งบประมาณมากขึ้น
ข. เพิ่มพูนความสามารถได้เฉพาะเรื่อง
ค. การใช้ระยะเวลาที่แตกต่างกัน
ง. เกี่ยวกับการปฏิบัติงาน
คาตอบ ค. การใช้ระยะเวลาที่แตกต่างกัน
17. ผู้ใดได้รับประโยชน์โดยตรงในการเข้ารับการอบรม
ก. องค์กรหรือหน่วยงาน ข. ผู้บังคับบัญชา
ค. วิทยากร ง. พนักงานหรือผู้เข้ารับการอบรม
คาตอบ ง. พนักงานหรือผู้เข้ารับการอบรม
18. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ที่ได้รับของพนักงาน
ก. ทา ให้เรียนรู้งานได้เร็วขึ้น ข. เพิ่มพูนความก้าวหน้า
ค. รู้จักคนมากขึ้น กว้างขวางขึ้น ง. แก้ปัญหาต่างๆ ขององค์กรได้
คาตอบ ง. แก้ปัญหาต่างๆ ขององค์กรได้
19. ทา ให้เกิดความรู้กว้าง ก้าวต่อเทคโนโลยี ตรงกับผู้ใด
ก. ผู้เข้าอบรม ข. ผู้บังคับบัญชา
ค. องค์กรระบุหน่วยงาน ง. วิทยากร
คาตอบ ก. ผู้เข้าอบรม
20. การส่งพนักงานอบรมก่อให้เกิดประโยชน์ด้านใด ต่อผู้บังคับบัญชา
ก. ลดค่าใช้จ่ายในการดา เนินงาน ข. เพิ่มผลผลิตทางตรงและทางอ้อม
ค. ทา ให้ข่าวสารในองค์กรดีขึ้น ง. ลดภาระในการปกครอง บังคับบัญชา
คาตอบ ง. ลดภาระในการปกครอง บังคับบัญชา
21. การฝึกอบรมตามแนวความคิดเชิงระบบมุ่งให้ประโยชน์ผู้ใดเป็นหลัก
ก. ผู้บริหาร ข. พนักงาน
ค. องค์กร ง. ผู้บริหาร พนักงาน องค์การ
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
คาตอบ ง. ผู้บริหาร พนักงาน องค์การ
22. เมื่อนาแนวความคิดเชิงระบบมาประยุกต์กับการฝึกอบรม ข้อใดคือกระบวนการ
ก. วิธีฝึกอบรม ข. ผู้บรรยาย
ค. สภาพของบริษัท ง. หัวข้ออภิปราย
คาตอบ ง. หัวข้ออภิปราย
23. ระบบสิ่งแวดล้อมภายนอก ได้แก่
ก. สภาพของสังคม ข. สภาพของรัฐบาล
ค. พฤติกรรมของพนักงาน ง. อุปกรณ์ต่างๆ
คาตอบ ก. สภาพของสังคม
24. เงิน จัดว่าอยู่ในนา แนวทางความคิดเชิงระบบใด
ก. ผลิตผล ข. กระบวนการ
ค. ปัจจัยนา เข้า ง. สิ่งแวดล้อมภายนอก
คาตอบ ค. ปัจจัยนาเข้า
25. แนวความคิดเชิงระบบตรงกับข้อใด
ก. system attitude ข. system skill
ค. system approach ง. system knowledge
คาตอบ ค. system approach
26. กฎหมายจัดอยู่ในประเภทใด
ก. imput ข. process
ค. feedback ง. environment
คาตอบ ง. environment
27. ข้อใดไม่จัดอยู่ในขั้นตอนการฝึกอบรม
ก. การหาความจา เป็นในการฝึกอบรม ข. การสร้างหลักสูตรการฝึกอบรม
ค. การออกแบบโครงการฝึกอบรม ง. การคัดเลือกผู้บรรยายในการฝึกอบรม
คาตอบ ง. การคัดเลือกผู้บรรยายในการฝึ กอบรม
28. "เห็นการอบรมเป็นแค่การพักผ่อนทา ให้การฝึกอบรมไม่บรรลุวัตถุประสงค์" เป็นปัญหาด้านใด
ก. ปัญหาด้านวิทยากรฝึกอบรม
ข. ปัญหาด้านฝ่ายฝึกอบรมหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายฝึกอบรม
ค. ปัญหาด้านผู้เข้ารับการฝึกอบรม
ง. ปัญหาด้านการบริหารฝึกอบรมและการประเมินผลการฝึกอบรม
คาตอบ ค. ปัญหาด้านผู้เข้ารับการฝึ กอบรม
29. ข้อใดไม่ได้จัดอยู่ในปัญหาด้านวิทยาการฝึกอบรม
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ก. วิทยากรพูดเก่งไร้สาระ ข. วิทยากรพูดมากเกินไป
ค. ขาดแคลนวิทยากร ง. วิทยากรสอนหนังสือที่โรงเรียน
คาตอบ ง. วิทยากรสอนหนังสือที่โรงเรียน
30. การฝึกอบรมที่ได้เงินงบประมาณน้อยก่อให้เกิดปัญหาด้านใด
ก. ด้านสถานที่ไม่เหมาะสม ข. ด้านเครื่องมืออุปกรณ์ไม่เพียงพอ
ค. ขาดวิทยากรที่มีคุณภาพ ง. ถูกทุกข้อ
คาตอบ ง. ถูกทุกข้อ
31. ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด
ก. ผู้บริหารบางคนไม่เห็นความสา คัญของการฝึกอบรม
ข. การฝึกอบรมเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
ค. จัดผู้ที่มีประสบการณ์ในบริษัทมาเป็นวิทยากร
ง. การฝึกอบรมไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างขององค์การได้
คาตอบ ง. การฝึกอบรมไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างขององค์การได้
32. การอบรมจะมีประสิทธิภาพได้ต้องขึ้นอยู่กับข้อใดที่ต้องร่วมมือกัน
ก. ผู้บริหารกับพนักงาน ข. การจัดองค์กรการฝึกอบรมกับองค์การ
ค. การจัดองค์การฝึกอบรมกับพนักงาน ง. องค์การกับผู้บริหาร
คาตอบ ข. การจัดองค์กรการฝึกอบรมกับองค์การ
33. ข้อใดไม่ได้เป็นหน่วยงานการจัดองค์การฝึกอบรม
ก. สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือนของสา นักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
ข. สถาบันการพัฒนาแรงงานของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
ค. โรงเรียนสารพัดช่างกรุงเทพมหานคร
ง. วิทยาการปกครองกระทรวงมหาดไทย
คาตอบ ค. โรงเรียนสารพัดช่างกรุงเทพมหานคร
34. การจัดองค์การตรงกับข้อใด
ก. Foundation ข. Organization
ค. Association ง. Social
คาตอบ ข. Organization
35. ข้อใดมิใช่ความหมายของการจัดองค์การ
ก. การกา หนดหน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานให้ชัดเจน
ข. กา หนดโครงสร้างขององค์การเพื่อดา เนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์
ค. การรวมตัวกันขึ้นเพื่อทา ประโยชน์ของการกุศล
ง. สร้างความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
คาตอบ ค. การรวมตัวกันขึ้นเพื่อทาประโยชน์ของการกุศล
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
36. เพื่อสร้างความเข้าใจและทัศนคติที่ดีให้กับพนักงานใหม่ที่เข้ามาทา งานจัดอยู่ข้อใด
ก. องค์ประกอบของการจัดการ ข. ความจา เป็นในการมีองค์การฝึกอบรม
ค. การสร้างหลักสูตรการฝึกอบรม ง. การประเมินผลการฝึกอบรม
คาตอบ ข. ความจาเป็นในการมีองค์การฝึกอบรม
37. ข้อใดฝ่ ายฝึกอบรมมิได้มีส่วนร่วมกับผู้บริหาร
ก. ฝ่ ายฝึกอบรมทา หน้าที่ถ่ายทอดงานแทนผู้บริหาร
ข. ฝ่ ายฝึกอบรมให้พนักงานมีประสิทธิภาพแทนผู้บริหาร
ค. ฝ่ายฝึกอบรมช่วยสาธิตการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์
ง. ฝ่ายฝึกอบรมช่วยพิจารณาค่าตอบแทนของพนักงาน
คาตอบ ง. ฝ่ายฝึกอบรมช่วยพิจารณาค่าตอบแทนของพนักงาน
38. หน่วยงานใดมีฝ่ายฝึกอบรมจะช่วยลดปัญหาด้านใด
ก. งบประมาณไม่พอ ข. ปัญหาการถ่ายทอดงานของผู้บริหาร
ค. เกิดความเสียหายในองค์กร ง. เครื่องมือและอุปกรณ์ไม่เพียงพอ
คาตอบ ข. ปัญหาการถ่ายทอดงานของผู้บริหาร
39. การฝึกอบรม ทา หน้าที่แทนใคร
ก. กรรมการบริษัท ข. ผู้บริหาร
ค. เจ้าของกิจการ ง. พนักงานขององค์การ
คาตอบ ข. ผู้บริหาร
40. ข้อใดไม่จา เป็นต้องมีศูนย์ฝึกอบรม
ก. สมาคม ข. บริษัท
ค. ชมรม ง. กระทรวง
คาตอบ ค. ชมรม
41. หน้าที่ของศูนย์ฝึกอบรมตรงกับข้อใด
ก. คัดเลือกพนักงานเข้าการฝึกอบรม ข. จัดหาสถานที่ให้แก่พนักงาน
ค. เป็นวิทยาการ ง. จัดโปรแกรมการฝึกอบรม
คาตอบ ค. เป็นวิทยาการ
42. หน่วยงานใดที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงของการฝึกอบรม
ก. ฝ่ายการเงิน ข. ฝ่ายบริหารการฝึกอบรม
ค. ฝ่ายเลขานุการสานักฝึกอบรม ง. ฝ่ายฝึกอบรม
คาตอบ ง. ฝ่ายฝึกอบรม
43. ฝ่ายที่ต้องรับหน้าที่การฝึกอบรมคือฝ่ายใด
ก. ฝ่ายธุรการ ข. ฝ่ายบุคคล
ค. ฝ่ายบริหาร ง. ฝ่ายการตลาด
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
คาตอบ ข. ฝ่ายบุคคล
44. องค์การขนาดใหญ่ที่มีบุคลากรมากต้องคา นึง
ก. องค์ประกอบของการจัดองค์กร ข. งบประมาณที่ต้องจ่ายแก่พนักงาน
ค. สวัสดิการของพนักงาน ง. ผู้บริหารต้องมีประสิทธิภาพ
คาตอบ ก. องค์ประกอบของการจัดองค์กร
45. สายการบังคับบัญชาคือข้อใด
ก. division of work ข. chain of command
ค. function ง. span of control
คาตอบ ข. chain of command
46. การกา หนดงาน หน้าที่งานมีอะไรบ้าง มีกี่กลุ่ม ขึ้นอยู่กับลักษณะขององค์การตรงกับ
องค์ประกอบข้อใด
ก. หน่วยงานสา คัญขององค์การ ข. การแบ่งงาน
ค. หน้าที่การงาน ง. สายการบังคับบัญชา
คาตอบ ค. หน้าที่การงาน
47. หน่วยงานสา คัญขององค์กร ไม่รวมข้อใด
ก. หน่วยงานหลัก ข. หน่วยงานที่ปรึกษา
ค. หน่วยงานอนุกร ง. หน่วยงานสื่อสาร
คาตอบ ง. หน่วยงานสื่อสาร
48. ข้อใดไม่จัดอยู่ในหน่วยงานหลัก
ก. ศูนย์ฝึกอบรม ข. ฝ่ ายพัฒนาผู้บริหาร
ค. ฝ่ ายผู้ผลิต ง. ฝ่ ายอบรมพนักงาน
คาตอบ ค. ฝ่ ายผู้ผลิต
49. หน่วยงานที่คอยบริการทา ความสะดวกแก่องค์กรโดยตรง คือ
ก. หน่วยงานอนุกร ข. หน่วยงานสื่อสาร
ค. หน่วยงานที่ปรึกษา ง. หน่วยงานรับเรื่อง
คาตอบ ก. หน่วยงานอนุกร
50. หน่วยงานที่ปรึกษาหมายถึง
ก. หน่วยงานที่ทา หน้าที่ตรงกับวัตถุประสงค์ขององค์การ
ข. หน่วยงานที่ช่วยบริการแก่งานหลัก
ค. หน่วยงานที่ช่วยแนะนา หรือให้คา ปรึกษาแก่หน่วยงาน
ง. หน่วยงานที่คอยวิเคราะห์งบประมาณให้ตรงกับวัตถุประสงค์ขององค์การ
คาตอบ ค. หน่วยงานที่ช่วยแนะนาหรือให้คาปรึกษาแก่หน่วยงาน
51. การจัดการองค์การจา เป็นต้องมีสายการบังคับบัญชา
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ก. เพื่อให้รู้ว่ามีกี่องค์การในการแบ่งงาน
ข. เพื่อให้รู้ความสัมพันธ์ตามลา ดับชั้น
ค. เพื่อให้รู้ว่าหน่วยงานใดปฏิบัติงานอย่างไร
ง. เพื่อให้รู้ว่าหน่วยงานใดเป็นหน่วยงานหลักขององค์การ
คาตอบ ข. เพื่อให้รู้ความสัมพันธ์ตามลา ดับชั้น
52. ข้อใดไม่จัดอยู่ในสายการบังคับบัญชา
ก. ควรมีผู้รับผิดชอบงานคนเดียวไม่ก้าวก่ายกันหรือซ้อนกัน
ข. สายบังคับบัญชามีลักษณะชัดแจ้งว่าใครเป็นผู้มีอา นาจสั่งการ
ค. การจัดลา ดับชั้นไม่ควรจัดใหม่มีจา นวนมากเกินไ
ง. ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบงานมากกว่าผู้ใต้บังคับบัญชา
คาตอบ ง. ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบงานมากกว่าผู้ใต้บังคับบัญชา
53. ช่างการควบคุมจะทา ให้ช่วยผู้ใดในการทา งานง่ายขึ้น
ก. ผู้บังคับบัญชา ข. องค์การหรือหน่วยงาน
ค. ผู้ใต้บังคับบัญชา ง. ผู้มาติดต่อ
คาตอบ ข. องค์การหรือหน่วยงาน
54. การป้องกันการปัดความรับผิดชอบ หมายถึง อา นาจการบังคับบัญชาคือข้อใด
ก. ช่วงการควบคุม ข. เอกภาพในการบังคับบัญชา
ค. สายการบังคับบัญชา ง. ถูกทุกข้อ
คาตอบ ข. เอกภาพในการบังคับบัญชา
55. อา นาจในการสั่งการพิจารณาได้ 2 นัยคือ
ก. การตัดสินใจ, การสั่งการ ข. การสั่งการแบบเด็ดขาด, ไม่เด็ดขาด
ค. การรวมอา นาจ, การกระจายอา นาจ ง. การปฏิบัติงานแบบนามธรรม, รูปธรรม
คาตอบ ค. การรวมอานาจ, การกระจายอานาจ
56. การกา หนดหน่วยงานและความสัมพันธ์ของหน่วยงานในองค์การขึ้นอยู่กับ
ก. โครงสร้างขององค์การ ข. แผนภูมิขององค์การ
ค. หน่วยงานสา คัญขององค์การ ง. ผู้บริหารองค์การ
คาตอบ ก. โครงสร้างขององค์การ
57. โครงสร้างขององค์กรแบบใด ไม่มีคณะกรรมการหรือที่ปรึกษา ควบคุมทา ได้ง่ายรวดเร็ว ขยาย
องค์การได้ง่าย แต่มักก่อให้เกิดปัญหา ขาดความรู้ความชา นาญ
ก. โครงสร้างองค์กรแบบงานหลัก
ข. โครงสร้างองค์กรแบบงานหลักและงานที่ปรึกษา
ค. โครงสร้างองค์การแบบหน้าที่การงานเฉพาะ
ง. โครงสร้างองค์การแบบเมทริกซ์
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
คาตอบ ก. โครงสร้างองค์การแบบงานหลัก
58. องค์กรใดที่ใช้โครงสร้างองค์การแบบเมทริกซ์
ก. กองอา นวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)
ข. ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.)
ค. บริษัทที่ปรึกษาองค์กรนาซา(NASA)
ง. ถูกทุกข้อ
คาตอบ ง. ถูกทุกข้อ
59. โครงสร้างใดที่มีการประสมประสานโครงสร้างแบบต่างๆ เข้าด้วยกันในองค์การและจัดตั้งเป็น
โครงการเฉพาะขึ้น เมื่อโครงสร้างเสร็จสิ้นผู้บริหารและทีมงานจะกลับไปยังแผนกเดิม
ก. โครงสร้างองค์การแบบงานหลัก
ข. โครงสร้างองค์การแบบงานหลักและแบบที่ปรึกษา
ค. โครงสร้างองค์การแบบหน้าที่การงานเฉพาะ
ง. โครงสร้างองค์การแบบเมทริกซ์
คาตอบ ง. โครงสร้างองค์การแบบเมทริกซ์
60. Organization chart จะช่วยให้เข้าใจโครงสร้างขององค์การด้านใด
ก. แสดงให้รู้สึกถึงความสัมพันธ์ของหน่วยงานย่อยต่างๆ ในองค์การ
ข. แสดงให้รู้ถึงการกระจายรายได้สู่แผนก
ค. แสดงให้รู้แผนที่ของแต่ละหน่วยตั้งอยู่จุดไหนขององค์การ
ง. แสดงให้รู้ถึงระยะเวลาการทา งานขององค์กร
คาตอบ ก. แสดงให้รู้สึกถึงความสัมพันธ์ของหน่วยงานย่อยต่างๆ ในองค์การ
61. ข้อใดไม่จัดว่าเป็นแผนภูมิขององค์การ
ก. เป็นเครื่องมือสา คัญที่ช่วยให้เข้าใจในองค์การ ข. แผนภูมิที่แสดงสายบังคับบัญชา
ค. แผนภูมิแสดงตา แหน่งและหน่วยงานย่อย ง. เขียนแผนภูมิการจัดการฝึกอบรม
คาตอบ ง. เขียนแผนภูมิการจัดการฝึกอบรม
62. แผนภูมิใดที่แสดงตา แหน่งและระบุชื่อบุคคลผู้ดา รงตา แหน่งไว้
ก. แผนภูมิโครงสร้างหลัก ข. แผนภูมิแสดงหน้าที่การงาน
ค. แผนภูมิแสดงตัวบุคคล ง. แผนภูมิแสดงแผนที่บริษัท
คาตอบ ค. แผนภูมิแสดงตัวบุคคล
63. ข้อใดที่นักวิชาการไม่ได้กล่าวรวมถึงหลักการจัดการขององค์การ
ก. องค์การต้องมีเป้าหมาย นโยบาย การดา เนินงานอย่างชัดเจน
ข. องค์การต้องอยู่ในศูนย์กลาง การอา นวยการที่มีประสิทธิภาพ
ค. องค์การต้องระบุหน้าที่การงาน ความรับผิดชอบแต่ละฝ่าย
ง. องค์การต้องมีผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพ คุณภาพ ที่เหมาะสมที่สุด
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
คาตอบ ง. องค์การต้องมีผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพ คุณภาพ ที่เหมาะสมที่สุด
64. องค์กรต้องสามารถปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป การปรับตัวหรือพัฒนา
องค์การจะต้องมีสม่า เสมอ สอดคล้องกับข้อใด
ก. การจัดองค์การฝึกอบรม
ข. การทา แผนภูมิขององค์การ
ค. การวิเคราะห์ของหน่วยงาน
ง. การศึกษาและการรวบรวมข้อมูลของหน่วยงาน
คาตอบ ก. การจัดองค์การฝึกอบรม
65. องค์การฝึกอบรมไม่เกี่ยวข้องกับข้อใด
ก. องค์การฝึกอบรมจะต้องมีการจัดให้ศูนย์กลางอา นวยการโดยตรง
ข. องค์การฝึกอบรม หางบค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม
ค. องค์การฝึกอบรมทุกคนต้องทราบว่า องค์การฝึกอบรมมีเป้าหมายใด
ง. องค์การฝึกอบรมต้องมีการจัดระบบการทา งานที่เหมาะสม
คาตอบ ข. องค์การฝึกอบรม หางบค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม
66. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่หลักของการบริหารภายใต้องค์การฝึกอบรม
ก. บริหารพนักงานเจ้าหน้าที่ ข. บริหารงบประมาณ
ค. บริหารอาคาร วัสดุ อุปกรณ์ ง. บริหารโปรแกรมการฝึกอบรม
คาตอบ ง. บริหารโปรแกรมการฝึกอบรม
67. แผนกฝึกอบรมเป็นองค์การฝึ กอบรมที่เล็กที่สุด ส่วนมากนิยมจัดให้อยู่ในสายงาน
ก. ฝ่ายบริหาร ข. ฝ่ายธุรการ
ค. ฝ่ายการตลาด ง. ฝ่ายบุคคล
คาตอบ ง. ฝ่ายบุคคล
68. ศูนย์ฝึกอบรมมีการ standard performance หมายถึง
ก. การบรรยายลักษณะของงาน ข. กา หนดมาตรฐานการปฏิบัติการ
ค. กา หนดหน้าที่การทา งาน ง. การแบ่งงาน
คาตอบ ง. การแบ่งงาน
69. ข้อใดไม่ใช่โครงสร้างองค์การตามลักษณะงาน
ก. ฝ่ายฝึกอบรมพนักงานระดับหัวหน้างาน ข. ฝ่ายบริหาร
ค. ฝ่ ายวิจัยและติดตามประเมินผล ง. ฝ่ ายแผนงานฝึกอบรม
คาตอบ ก. ฝ่ายฝึกอบรมพนักงานระดับหัวหน้างาน
70. ข้อใดได้อยู่ในประเภทของผู้รักการฝึกอบรม
ก. ฝ่ ายบริหาร ข. ฝ่ ายฝึกอบรมพนักงานระดับปฏิบัติการ
ค. ฝ่ ายพัฒนาผู้บริหาร ง. ฝ่ ายข้อมูลและทะเบียน
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
คาตอบ ง. ฝ่ายข้อมูลและทะเบียน
71. โครงสร้างองค์การฝึกอบรมทั้ง 2 โครงสร้างอยู่ภายใต้การดา เนินงานของใคร
ก. ผู้บริหาร ข. ผ.อ.ศูนย์ฝึกอบรม
ค. ผ.อ.ฝ่ายฝึกพนักงาน ง. ผ.อ.ฝ่ายข้อมูลและทะเบียน
คาตอบ ข. ผ.อ.ศูนย์ฝึกอบรม
72. กองฝึกอบรมและพัฒนาของการไฟฟ้าฝ่ ายผลิต แห่งประเทศไทย จัดตั้งขึ้นเพื่อ
ก. อบรมบุคคลให้กับหน่วยงานต่างๆ ข. ฝึกอบรมบุคคลในองค์การตนเอง
ค. รับจ้างอบรมให้กับหน่วยงานรัฐและเอกชน ง. ฝึกอบรมบุคคลภายนอกองค์การ
คาตอบ ข. ฝึกอบรมบุคคลในองค์การตนเอง
73. การจัดทา หลักสูตรและเนื้อหา เทคนิคการฝึกอบรมคือบทบาทของใคร
ก. เจ้าหน้าที่ฝึกอบรม ข. ผ.อ.ศูนย์ฝึกอบรม
ค. ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ง. ผู้บริหาร
คาตอบ ก. เจ้าหน้าที่ฝึกอบรม
74. เจ้าหน้าที่ฝึกอบรมมีส่วนร่วมในข้อมูล
ก. เป็นผู้ชักจูงให้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ขององค์การ ให้เป็นแบบอย่าง
ที่ดีของพนักงาน
ข. ควบคุมการทา งานหลังจากที่พนักงานผ่านการอบรมแล้ว
ค. จัดหาคนเข้าทา งานเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ ายฝึกอบรม
ง. จัดหาข้อมูลเพ่อทา การฝึกอบรมให้แก่ผู้เข้ารับการอบรม
คาตอบ ก. เป็ นผู้ชักจูงให้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ขององค์การ ให้เป็ น
แบบอย่างที่ดี ของพนักงาน
75. การบริหารอาคาร วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ มีกิจกรรมอะไรบ้าง
ก. ควบคุมการใช้ ข. จัดระบบการใช้
ค. จัดหาอุปกรณ์ ง. ถูกทุกข้อ
คาตอบ ง. ถูกทุกข้อ
76. กา หนดว่าจะจัดโครงสร้างของหน่วยงานอย่างไร แบ่งออกเป็นกี่ฝ่ าย กี่ประเภท อาคารสถานที่ และ
เครื่องอุปกรณ์ต่างๆ คือการดาเนินการอย่างไร
ก. การจัดหาหน่วยงาน
ข. การสั่งการและการอา นวยการทา งาน
ค. การควบคุมและการทา งาน
ง. การจัดคนเข้าทา งานเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกอบรม
คาตอบ ก. การจัดหาหน่วยงาน
77. การจัดคนเข้าทา งานเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมทา ได้จาก
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ก. คัดเลือกจากพนักงานที่มีประสบการณ์ ข. รับสมัครจากภายนอก
ค. เปิ ดโอกาสให้บุคคลภายในก่อน ง. คัดเลือกพนักงานที่มีบุคลิกผู้นา
คาตอบ ข. รับสมัครจากภายนอก
78. เมื่อรับเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมแล้ว ควรประเมินผลอย่างไร
ก. พัฒนาเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมอยู่เสมอ ข. ให้เจ้าหน้าที่ฝึกพูดทุกวัน
ค. จัดอบรมเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมเองในหน่วยงาน ง. ให้เจ้าหน้าที่แลกประสบการณ์กันทุกวัน
คาตอบ ก. พัฒนาเจ้าหน้าที่ฝึ กอบรมอยู่เสมอ
79. มีปัญหาอุปสรรคอะไร ต้องช่วยสนับสนุนช่วยแก้ไขปัญหา การปฏิบัติงานเป็นไปตามระเบียบการ
บริหารงานภายในหน่วยงานฝึกอบรมควรดา เนินการอย่างไร
ก. สั่งและอา นวยการทา งาน ข. ควบคุมการทา งาน
ค. จัดหาคนเข้าทา งานเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมใหม่ ง. ควรติดตามประเมินผล
คาตอบ ข. ควบคุมการทางาน
80. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการฝึกอบรม
ก. หน่วยราชการจา เป็นต้องพัฒนาบุคลากรของตนให้มีประสิทธิภาพ
ข. การจัดตั้งหน่วยงานหรือองค์การสา หรับฝึกอบรมมีความจา เป็นอย่างยิ่ง
ค. องค์การใหญ่จา เป็นต้องมีศูนย์การฝึกอบรมของหน่วยงาน
ง. กล่าวถูกทุกข้อ
คาตอบ ง. กล่าวถูกทุกข้อ
81. หน่วยงานต้องจัดให้มีการฝึกอบรมได้ต้องเล็งเห็น
ก. ความเจริญเติบโตบรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพขององค์การ
ข. ผลกา ไรที่จะได้รับขององค์การ
ค. พนักงานน้อย แต่มีคุณภาพประหยัดค่าใช้จ่ายให้องค์การ
ง. เพิ่มประสิทธิภาพแก่ผู้บริการขององค์การ
คาตอบ ก. ความเจริญเติบโตบรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพขององค์การ
82. ปัญหาขององค์การ M คือปัจจัยด้านใด
ก. ด้านบุคลากร ข. การเงิน
ค. การจัดการ ง. ด้านวัสดุ
คาตอบ ก. ด้านบุคลากร
83. Management คือข้อใด
ก. จา นวนการลาออก ขาดงาน มีอัตราสูง ข. มาตรฐานการปฏิบัติงานต่า
ค. มีคู่แข่งมาก ง. ต้นทุนการผลิตสูง
คาตอบ ข. มาตรฐานการปฏิบัติงานต่า
84. ข้อใดมิใช่ปัญหาด้านการตลาด
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ก. ไม่มีบริการหลังการขาย ข. สภาพเศรษฐกิจของประเทศตกต่า
ค. สินค้าไม่ได้รับความนิยม ง. ต้นทุนการผลิตสูงผลผลิตตกต่า
คาตอบ ง. ต้นทุนการผลิตสูงผลผลิตตกต่า
85. วัตถุดิบคุณภาพต่า หรือจัดส่งไม่ทันเวลาการผลิต เกิดปัญหาด้านใด
ก. ด้านวัสดุอุปกรณ์ ข. ด้านตลาด
ค. ด้านการจัดการ ง. ด้านการเงิน
คาตอบ ก. ด้านวัสดุอุปกรณ์
86. ตลาดแคบ ส่วนแบ่งการตลาดน้อยกว่าบริษัทอื่น ขยายตลาดไม่ได้จัดอยู่ในข้อใด
ก. ด้านการตลาด ข. ด้านการเงิน
ค. ด้านการจัดการ ง. ด้านวัสดุอุปกรณ์
คาตอบ ก. ด้านการตลาด
87. ข้อใดไม่จัดอยู่ในปัญหาด้านวัสดุอุปกรณ์
ก. เครื่องจักรเก่า ข. สถานที่ทา งานคับแคบ
ค. มีเวลาผลิตน้อย ง. มีงบประมาณวัสดุไม่เพียงพอ
คาตอบ ง. มีงบประมาณวัสดุไม่เพียงพอ
88. บริษัทแห่งหนึ่งส่งสินค้าไปยังปลายทางประเทศอิตาลี แต่ต้องโดนส่งสินค้ากลับคืนมา เพราะ
สินค้าไม่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพต่า จัดอยู่ปัญหาด้านใด
ก. ด้านวัสดุอุปกรณ์ ข. ด้านการตลาด
ค. ด้านการจัดการ ง. ด้านบุคลากร
คาตอบ ข. ด้านการตลาด
89. เมื่อเกิดเหตุการณ์มีปัญหาด้านการจัดการทา ให้องค์การเสื่อมเสียชื่อเสียงควรจัดการฝึกอบรมใน
เรื่องใด
ก. ขาดทักษะในการทา งาน ข. ขาดความสามารถในการปฏิบัติงาน
ค. ขาดความรู้ในหน้าที่การทา งานที่ทา ง. ขาดความสนใจ
คาตอบ ข. ขาดความสามารถในการปฏิบัติงาน
90. การจัดส่งสินค้าไม่ทันตามกา หนด หรือทา งานช้า ทา งานไม่เป็นควรฝึกอบรมด้านใด
ก. ขาดทักษะในการทา งาน ข. ขาดความเข้าใจ
ค. ขาดความสนใจ ง. มีทัศนคติที่ไม่ดีต่องาน
คาตอบ ค. ขาดความสนใจ
91. ข้อใดไม่อยู่ในปัจจัยของการบริหาร
ก. Man ข. Market
ค. Manufacture ง. Money
คาตอบ ค. Manufacture
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
92. ข้อใดรวมอยู่กับปัญหาวัสดุอุปกรณ์ (Material)
ก. Market ข. Money
ค. Minute ง. Men
คาตอบ ค. Minute
93. ข้อใดไม่ได้จัดอยู่ในประเภทของ Management
ก. ผลผลิตต่า ข. สถานที่ทา งานคับแคบ ร้อนอบอ้าว
ค. มาตรฐานปฏิบัติงานต่า ง. องค์การเสื่อมเสียชื่อเสียง
คาตอบ ข. สถานที่ทางานคับแคบ ร้อน อบอ้าว
94. ปัญหาข้อใดขององค์การเกี่ยวข้องกับบุคลากรโดยตรง
ก. อัตราสิ้นเปลือง ข. จา นวนอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น
ค. การร้องทุกข์จากลูกค้า ง. ชื่อเสียงองค์การไม่ดี
คาตอบ ข. จานวนอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น
95. ข้อใดชี้ให้เห็นว่ามีความจา เป็นต้องจัดการอบรม
ก. ขาดงานบ่อยๆ ข. มีการเปลี่ยนแปลงการผลิต
ค. ผลผลิตตกต่า ง. ต้นทุนกรผลิตสูง
คาตอบ ข. มีการเปลี่ยนแปลงการผลิต
96. ปัญหาข้อใดที่ไม่สามารถแก้ได้โดยการฝึกอบรม
ก. งบประมาณไม่พียงพอ ข. บุคลากรลาออก
ค. เครื่องจักรเก่า ง. ถูกทุกข้อ
คาตอบ ง. ถูกทุกข้อ
97. พนักงานข้อใดไม่สามารถจัดเข้าการฝึกอบรม
ก. มานีเริ่มต้นทา งานได้เพียง 3 วัน ข. สมศรีเคยทา งานแผนกนี้
ค. สมชายไม่เคยทา งานซ่อมบา รุงมาก่อน ง. สมรเบื่องานไม่อยากทา งานที่นี่อีกแล้ว
คาตอบ ง. สมรเบื่องานไม่อยากทางานที่นี่อีกแล้ว
98. แสงอรุณเข้าทา งานบริษัทแห่งหนึ่งแต่ใช้ Computer ไม่เป็นจัดอยู่ในปัญหาที่เกิดจากสิ่งใด
ก. ขาดความรู้ในหน้าที่การงานที่ทา ข. ขาดความสามารถในการปฏิบัติงาน
ค. ขาดทักษะในการทา งาน ง. ขาดความเข้าใจ
คาตอบ ค. ขาดทักษะในการทางาน
99. ความจา เป็นที่ต้องค้นหาและต้องแก้ไขด้วยการอบรม
ก. ผลผลิตต่า ข. มีการละเลยไม่ปฏิบัติตามคา สั่ง
ค. มีการขยายงาน ง. เกิดอุบัติเหตุในการทา งานบ่อย
คาตอบ ค. มีการขยายงาน
100. การวิเคราะห์หาความจา เป็นในการฝึกอบรมคือข้อใด
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ก. ข้อมูลที่จะต้องศึกษาและรวบรวมมาเพื่อทา การวิเคราะห์หาความจา เป็นในการฝึกอบรม
ข. การวิเคราะห์ต้องขึ้นอยู่กับกรณีและสาเหตุของปัญหา
ค. สอบถามและสัมภาษณ์พนักงานถึงการเข้ารับการฝึกอบรม
ง. จัดหาหลักสูตรว่าเหมาะสมหรือไม่
คาตอบ ก. ข้อมูลที่จะต้องศึกษาและรวบรวมมาเพื่อทาการวิเคราะห์หาความจาเป็นในการ
ฝึกอบรม
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
แนวข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ
1. Grammar
Direction: Choose the best answer
1. I had no sooner closed the door ….. somebody started knocking on it.
a. that b. so
c. than d. when
Answer c. เราใช้คาเชื่อม (Conjunction) “no sooner …… than” ดังนั้นเมื่อมีคาว่า “no sooner…….” จึงต้องใช้ “than” คาตอบจึงเป็นข้อ c. เท่านั้น
2. “I don’t like science fiction.”
“ ……….. do I.”
a. Also b. Either
c. Both d. Nor
Answer c. การกล่าวปฏิเสธเมื่อจะต้องกล่าวซ้าอีกในประโยคที่ผ่านมาแล้วว่าจะไม่เป็นหรือไม่ทาเช่นนี้ เช่นนั้นอีก เราใช้โครงสร้างที่เป็น Nor, Neither + กริยาช่วย + ประธาน เช่น Nor do I. หรือ Nor do I. หรือ Neither did he. ตัวเลือกจึงเป็นข้อ d.
3. Either of the women ………capable of looking after the baby.
a. are b. is
c. they are d. she is
Answer b. การใช้ “Either” เมื่อใช้ร่วมกับคานาม (Noun) หรือคาสรรพนาม (Pronoun) ที่จะเป็นประธาน (Subject) จะทาให้มีรูปเป็นเอกพจน์ (ศึกษาจาก Grammar เรื่อง Agreement of Subject and Verb) ทาให้ในข้อนี้จะต้องมีกริยาเป็นรูปเอกพจน์ จึงเลือกข้อ b.
4. Hurry up ! ……… for you.
a. We all wait b. We all waited
c. We’ve all waited d. We’ re all waiting
Answer d. การใช้ข้อความอุทานมักจะบอกให้รู้ว่า ข้อความที่จะตามมาจะเป็นการเน้นให้เห็น Tense ที่จะได้ใช้เป็น Present Continuous Tense เป็นส่วนใหญ่ (ศึกษาจาก Tense เรื่อง Present Continuous Tense คาตอบจึงเป็นข้อ d.
5. She’s a very selfish woman, but somehow you can’t help …….her.
a. liking b. like
c. to like d. that likes
Answer a. เราใช้กริยา “can’t help” เพื่อเป็นสานวนที่แปลว่า “อดไม่ได้ที่จะ”ซึ่งทาให้ต้องเป็นกริยาที่จะ
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
มีกรรมมารับ (transitive Verb) ตามมา จึงต้องใช้คานามหรือ V.ing ทาให้ตัวเลือกจึงเป็นข้อ a.
6. Let’s have dinner together ………next week.
a. some time b. sometime
c. sometimes d. some times
Answer a. เราทราบว่า “time” หมายถึงเวลา แต่ “times” หมายถึง จานวนครั้งในที่นี้จะต้องแปลว่า “เวลา” และจะหมายถึงบางเวลา จึงไม่ได้คาขยาย “some” เขียนติดกัน ตัวเลือกจึงเป็นข้อ a.
7. The soup tasted ……….
a. wonderful b. wonderfully
c. wonder d. wondering
Answer a. เราใช้กริยาเชื่อม (linking Verb) ที่จะมีคาขยายเป็น Adjective เท่านั้น เว้นแต่ว่า linking Verb นี้ ได้ให้ความหมายที่เด่นชัดหรือมีการเน้นเพื่อจะเป็นกริยาหลัก (Main Verb) จึงจะใช้ adverb มาขยาย ดังนั้น linking Verb โดยปกติจะใช้ Adjective มาขยายเท่านั้น ตัวเลือกที่เหมาะสมในที่นี้จึงเป็น Adjective คือข้อ a.
8. Shall we turn ……… the program ?
a. on to b. at
c. in d. off
Answer d. เราใช้สานวน “turn off” หมายถึง ปิด เช่น ปิดโทรทัศน์, ปิดวิทยุ และใช้ “turn on” หมายถึง เปิด ดังวิธีการเปิดที่กล่าวมาแล้ว เช่น เปิดวิทยุ, เปิดโทรทัศน์ และในข้อนี้จะมีข้อ d. เหมาะสมที่สุด
9. It is extremely important for children ……. to share things.
a. learning b. learned
c. to learn d. be learning
Answer c. เราใช้คาที่เติมนี้นาไปขยาย “important” ให้รู้ว่าสาคัญอย่างไร คือ สาคัญที่จะเรียน ทาให้คาที่เติมจะต้องไปขยาย “important” ซึ่งเป็นคา Adjective และเราทราบว่า “adverb” จะขยาย “Adjective” เราเห็นกริยา “is” เป็นกริยาช่วย ที่ใช้ทาหน้าที่เป็นกริยาแท้แล้วทาให้กริยาที่ตามมาจะเป็นกริยาไม่แท้ (Non-Finite Verb) ซึ่งถ้านาไปใช้เป็น adverb ก็จะได้แก่ “important” และขยาย Adjective “important” ที่ให้ความหมายเด่นชัด จึงต้องมี “to” มาคั่น คาตอบจึงเป็น “to learn” ที่ข้อ c. นั่นเอง
10. Don’t come and see me today. I’d rather you …….tomorrow.
a. will come b. have come
c. came d. come
Answer c. เราใช้กริยาช่วย “would rather” เพื่อบอกถึงความไม่จริงในขณะที่พูด เพราะเราแปลว่า “อยากที่จะ” ก็จะหมายถึงไม่ได้เป็นอย่างนั้นในขณะที่พูดนั้น ข้อความที่ได้แสดงว่าจะไม่จริง จึงไม่มี
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
โอกาสใช้ Present Tense เลย เพราะ Tense นี้จะต้องเป็นความจริงในปัจจุบันอีกด้วย ทาให้ข้อความที่จะเติมถ้าเป็น Tense ก็ต้องเป็น Past Tense อย่างเห็นได้ชัด เราใช้โครงสร้างแบบ Subjunctive ที่เป็น Past หรือ Past Perfect Subjunctive นั่นเอง ตัวเลือกจึงพิจารณาที่ข้อ c. เท่านั้น
แบบที่ 2 แบบเลือกข้อผิด
Direction: Choose the one that is not correct in English.
11. In such a selfish society as ours, a couple needs to study each other before committing.
a. b. c. Themselves to marriage. d.
Answer b. เราทราบว่าประธานในประโยคนี้คือ “a couple” ซึ่งหมายถึง “คู่” จะให้ความหมายที่เป็นพหูพจน์ จึงทาให้กริยาที่ตามมาจะเป็นรูปพหูพจน์ไปด้วย โดยที่ “needs” จะต้องไม่เติม “ s ” นั่นคือข้อ “ b” แก้เป็น “need”
12. John, had studied his lecture notes thoroughly, was well prepared for the Physics exam.
a. b. c. d.
Answer a. ในประโยคนี้จะมีกริยาแท้ (K2) และ K1 (Subject) เพียงอย่างละคาเราจะทราบว่ากริยาแท้เมื่อตามหลังประธานจะไม่มีเครื่องหมาย Comma คั่นโดยตรง เราจึงใช้เป็นส่วนขยาย ซึ่งในที่นี้จะเป็น Participial phrase คือ “Having studied” ทาให้ข้อ a. ต้องแก้เป็นดังที่กล่าวไว้แล้ว
13. She was thirsty, so, she refused to drink any soft drink.
a. b. c. d.
Answer b. ในประโยคนี้จะแสดงความขัดแย้งของ 2 main clause ทั้ง main clause หน้า และ main clause หลัง เราจึงควรใช้ “but” แทนคาว่า “so” ในข้อ b.
14. American architecture is at is best when it concerns with buildings which have a practical purpose.
a. b. c. d.
Answer b. เราทราบใน clause หลังว่าน่าจะใช้เป็น Passive Voice เพราะประธาน “ it ” จะต้องเป็นผู้กระทา จึงต้องแก้ไขในข้อ b. เป็น “is concerned with”
15. The ones who have read the book know the answer, but another don’t.
a b. c. d.
Answer d. เราใช้ “the ones” กับ “the others” เพื่อบอกว่าอย่างหนึ่งหรือคนพวกหนึ่งเป็นอย่างไร แต่อีกจานวนหนึ่งซึ่งควรจะชี้เฉพาะในกลุ่มที่เรากล่าวมาแล้วในส่วนแรก “the ones” จึงทาให้ในส่วนหลังจะต้องเป็น “the others” เพื่อชี้เฉพาะในเรื่องนั้น และเป็นรูปพหูพจน์อีกด้วย จึงเลือกข้อ d. โดยแท้เป็น “the others”
16. The scientific revolution of the early 1900’s affected education by change the nature of technology.
a. b. c. d.
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
Answer c. คาที่เติมหรือตามหลัง Preposition จะใช้เป็นคานามเสียเป็นส่วนใหญ่เพราะ Preposition จะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคานามกับคาอื่นๆ ซึ่งอาจจะเป็นคานามอีกก็ได้ แต่ต้องวางไว้หน้าคานามเป็นอย่างน้อย และถ้าต้องการที่จะหมายถึงการกระทาที่เน้นอีกด้วย แล้วคาว่า “change”จะต้องใช้เป็น “changing” ทาให้ข้อ c. ต้องแก้เป็น “changing”
17. Translated into terms of psychological theory, association has been thought of as the basis of to learn,
a. b. c.conditioning , and creative thinking. d.
Answer c. เป็นที่ทราบว่า เราใช้คานามหรือคาสรรพนามหรือ Gerund (V.ing) ตามหลัง Preposition เพราะ Preposition จะเชื่อมคานามและคาต่างๆ ดังนั้น ในข้อ c. จึงต้องแก้เป็น “learning”.
18. Farm animals have been regardless by nearly all societies as a valuable economic resource.
a. b. c. d.
Answer b. เราเห็นรูปกริยาในประโยคนี้เป็น Passive Voice เพราะต้องทราบว่าประธานจะต้องเป็นผู้ถูกกระทา จึงทาให้กริยาหลัก (Main Verb) จะต้องเป็น V3 ดังนั้น “regardless” จะต้องเปลี่ยนเป็น “regarded” ในข้อ b. นี้
19. The government requires the a census be taken every ten years so accurate statistics may be compiled.
a. b. c. d.
Answer c. ในประโยคนี้เราใช้คาเชื่อม (Conjunction) ว่า “ so ” ซึ่งบอกถึงผลที่จะได้รับ (so) เป็น Conjunction of result แต่จริงๆ ประโยคนี้ต้องการจะบอกถึงความมุ่งหมาย ซึ่งควรใช้ Conjunction of purpose จึงต้องแก้ข้อ c. เป็น “ so that หรือ in order that” เป็นต้น
20. The Hall of Fame at Newyork University is a national memorial to United States citizens who have
a. b. c.
achieved last greatness.
d.
Answer d. การบอกลาดับที่ของตัวเลข (Ordinal Number) เช่นที่ 1 หรือที่ 2 เราจะใช้ “ the ” เช่น the first, the second เป็นต้น และถ้าต้องการจะเน้นคาก็ใช้ในลักษณะเดียวกัน จึงทาให้ข้อ d. จะต้องมีการใช้ “ the” ซึ่งเราแก้เป็น “ the last greatness” (ความยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้าย)
แบบที่ 3 แบบถอดความหรือความเข้าใจประโยค
Direction: Choose the best paragraph of the given statement.
21. The news of her return caused us no little surprised.
a. We are not surprised when she returned.
b. We knew she had returned but were still surprised.
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
c. Her return did surprise us a little.
d. We were did surprised when we heard she had returned.
Answer d. เราทราบว่า “little” จะให้ความหมายเป็นปฏิเสธ (Negative meaning) และขณะเดียวกันในประโยคนี้ก็มีคาว่า “no” อยู่แล้ว จึงทาให้เกิดความหมายของปฏิเสธซ้อนปฏิเสธ จึงได้ออกมาเป็นบอกเล่า (Positive statement) เราจึงรู้ว่าจะไม่เลือกข้อ a. เพราะเป็นปฏิเสธ เราทราบว่า “little” จะต้องตรงข้ามกับความหมายที่แปลว่า “มาก” เพราะ “little” แปลว่า “น้อยมากๆ” ดังนั้น “ no little” จึงได้ความหมายว่า “มากๆ” ที่คาว่า “greatly” ในข้อ d. นั่นเอง
22. Some foreigners find Thai food too hot to eat.
a. Some foreigners love to eat Thai food when it is very hot.
b. Some foreigners look for a good place to eat hot Thai food.
c. Some foreigners cannot eat Thai food because it is very hot.
d. Some foreigners cannot eat Thai food when it is served hot.
Answer c. ความหมายของ “too …..to” หมายถึง “มากเกินไปที่จะ” ซึ่งให้ความหมายเป็นปฏิเสธ จะเห็นข้อ a. และข้อ b. เป็นบอกเล่าจึงไม่เลือก ส่วนข้อ d. จะมีคาที่เกินความหมายของโจทย์ที่คาว่า “served” จึงไม่ควรเลือก ดังนั้น ข้อที่ถูกจึงเป็นข้อ c.
23. I can’t believe how polluted the air is !
a. I don’t know how the air is polluted.
b. I don’t believe that polluted air exists here.
c. I can’t believe that polluted air exists here.
d. I’ m very surprised that the air is so polluted.
Answer d. ความหมายในข้อ a. คือ “ฉันไม่รู้.....” จะไม่ตรงกับโจทย์ที่พูดว่า “ฉันไม่เชื่อ…” จึงไม่เลือกข้อ a. และความหมายของ can’t จะไม่เหมือนกับ “don’t” ในข้อ b. ส่วนข้อ c. จะมีคาที่ให้ความหมาย เกินมาคือ “exists here” จึงผิด ตัวเลือกจึงเป็นข้อ d. เพราะ “can’t believe จะเหมือนกับ very surprised”
24. John is very considerate and also very down-to-earth.
This means that John . ………
a. is practical and sensible . b. is a very devoted farmer.
c. never has good ideas. d. is rough and dirty.
Answer a. เราอาจจะทราบความหมายกลายๆ ของคาว่า “down-to-earth” คือ “ลงมาสู่พื้นดินหรือหมายถึงเป็นคนที่ใจเย็นหรือใจอ่อน” จึงทาให้ความหมายจะไปในทางดี ซึ่งตัวเลือกข้อ c. และข้อ d.จะต้องตัดทิ้งไปเพราะความหมายที่ได้จะเป็นลบ ส่วนข้อ b. ก็ให้ความหมายดี แต่จะไม่ตรงกับโจทย์ เพราะคาว่า devoted จะหมายถึง “อุทิศ” จึงเลือกข้อ a. ซึ่งหมายถึงเป็นคนที่เข้าใจคนอื่นที่มีความเห็นอกเห็นใจ และเป็นผู้มีอารมณ์อ่อนไหว ชอบช่วยเหลือคนอื่นนั่นเอง (สาหรับคาว่า “considerate จะหมายถึง เห็นอกเห็นใจหรือนึกถึงคนอื่น”
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
25. It looks as if his job could be quite dangerous.
a. His job was very dangerous.
b. His job might be fairly dangerous.
c. His job seems to have been quite dangerous.
d. His job can look rather dangerous.
Answer b. ความหมายของ “as if” คือ “ราวกับว่า” ย่อมแสดงถึงการไม่เป็นจริง (unreal) ดังนั้น ข้อมูลที่ได้จะตรงข้ามกัน ซึ่งในที่นี้จะเห็นว่า “งานของเขานั้นยังจะไม่ถึงกับอันตรายนัก” คือ ความหมายต้องตรงกันข้ามกับโจทย์ ซึ่งตัวเลือกที่เข้าลักษณะนี้จะเป็นเพียงข้อ b. เท่านั้น เพราะ “might หมายถึง อาจจะ” จึงแปลว่า “ยังไม่เป็นอย่างนั้นอย่างนี้” ดังที่โจทย์เป็นอยู่ จึงเลือกข้อ b.
26. Military service used to be compulsory in Britain, but now it is voluntary.
a. Military service in Britain is no longer optional.
b. British men now do not have to volunteer for military service.
c. The British armed forces now depend on volunteers.
d. It is now incumbent on British men to join the army.
Answer c. ในประโยคนี้ได้พูดถึงการเกณฑ์ทหาร สมัยก่อนเคยเป็นการบังคับในประเทศอังกฤษ แต่ตอนนี้จะเป็นเรื่องของการสมัครใจ คาตอบจึงเลือกข้อ c. ที่ใช้คาว่า “depend on” คือ ขึ้นอยู่กับหรือการสมัครใจนั่นเอง แต่ขณะที่ข้อ a. บอกถึงคาว่า “ไม่มีการให้เลือกได้อีกต่อไป” ข้อ b. จะพูดถึงการไม่ต้องสมัคร ซึ่งจะผิดและข้อ d. พูดถึงการเป็นภาระหน้าที่ที่จะต้องเป็นทหาร
27. The girl was just not strong enough to have broken the box.
a. The box was not broken because the girls was very weak.
b. Someone else not the girl, broke the box.
c. The girl wasn’t strong but she broke the box.
d. The girl, though quite strong, didn’t break the box.
Answer b. ความหมายที่ได้บอกถึงการที่ผู้หญิงจะไม่มีความแข็งแรงพอที่จะทาให้กล่องนั้นหักไปได้ เพราะอาจจะมีความแข็งมากเป็นพิเศษ ดังนั้น ถ้าเป็นผู้หญิงแล้วจะไม่สามารถทากล่องให้แตกหรือหักได้ จึงไม่เลือกข้อ c. เพราะให้ความหมายตรงกันข้ามกับโจทย์คือ ผู้หญิงทากล่องแตกหักได้ ส่วนข้อ d. จะเห็นว่า “ถึงแม้ว่าแข็งแรงพอ”จะทาให้ผิดความหมายไปเลย เพราะโจทย์บอกผู้หญิงไม่แข็งแรงพอสาหรับข้อ a. ที่ว่า “เพราะผู้หญิงอ่อนแอมากเกินไป ก็ยังไม่ตรงกับความหมายมากนัก คืออาจจะอ่อนแอหรือไม่แข็งแรงเท่านั้นแต่ไม่มากมายเหมือนความหมายของข้อ a. นี้จึงผิดอยู่เล็กน้อย จะต้องเลือกข้อ b. ที่กล่าวเป็นกลางๆ ที่ว่า “ถ้าเป็นผู้หญิงแล้วจะไม่สามารถทากล่องให้หักได้” กล่าวคือจะทาได้ถ้าเป็นแต่เพียงที่ไม่ใช่ผู้หญิง
28. By next August Charles will have worked here for seven years.
From this sentence it is true to say that ………….
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
a. Charles no longer works here.
b. Charles has now worked here for seven years.
c. Charles is going to work here for the next seven years.
d. Charles is at present working here.
Answer d. การใช้ Present Perfect Tense จะบอกถึงเหตุการณ์หรือการกระทาที่เกิดขึ้นจากอดีตเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และในประโยคนี้ไม่ได้เป็นปฏิเสธจึงไม่เลือกข้อ a. ส่วนข้อ c. มีการใช้ “to be going to” หรือ “is going to” ซึ่งบอกความหมายถึงอนาคต (ความหมายจึงเท่ากับ will คือจะ) แต่เราเห็นว่าในโจทย์ข้อนี้เป็นอนาคต เพราะมี “will” ก็ตาม และใช้เป็น Future Perfect Tense ซึ่งมีการกาหนดเวลา อันจะบอกว่าในอนาคตบุคคลผู้นี้จะทางานอยู่ที่นี้ครบ 7 ปี ทาให้ตีความได้คล้ายกับ Present Perfect Tense เหมือนที่อธิบายไว้ในตอนแรก จึงแปลว่า ตอนนี้เขายังทางานอยู่ที่นี่ ซึ่งข้อ b. บอกว่า “ครบ 7 ปีแล้วในตอนนี้จึงผิดเพราะจะไปครบในช่วงเดือนสิงหาคมหน้า และข้อ c. จะผิดที่มี “the next” อันจะบอกถึง 7 ปีถัดไป ไม่ใช่ที่จะถึงในคราวหน้านี้ ทาให้ตัวเลือกจึงเป็นข้อ c. เพราะตอนนี้สรุปได้ว่าก็ยังทางานอยู่นั่นเอง
29. Edward was frozen out of the business by competition.
a. Edward did not succeed in business because of the competition.
b. Edward was very cold because of his working very hard in business.
c. The weather was so cold that Edward could not run his business.
d. Edward failed because his business was frozen buy the competition.
Answer a. ความหมายของ “to be frozen out of” ไม่น่าจะแปลว่า “เย็นจนแข็งหรือเย็นมาก” เพราะมีการกล่าวถึงเรื่องธุรกิจและการแข่งขัน จึงน่าจะแปลว่า “ความไม่สาเร็จ” เพราะมีการใช้ “out of” คือ ออกไปจากหรือหลุดออกจาก จึงต้องแปลงเป็นลบ ซึ่งตัวเลือกข้ออื่นจะแปลว่า “หนาวเย็น” แต่ข้อ a. จะแปลถึง ความไม่สาเร็จ จึงเลือกข้อ a. นี้
30. He needn’t have submitted that report.
a. He submitted that report because it was necessary.
b. He didn’t submit that report, but he should have.
c. He submitted that report, but it wasn’t necessary.
d. a. and b. correct.
Answer c. ความหมายของโครงสร้างที่ว่า (“V ช่วย + have + V3” จะบอกถึงการเป็น Past unreal คือ ไม่จริงในอดีต และโจทย์จะมี “not” เป็นปฏิเสธ จึงทาให้ได้ความว่าต้องเป็นโครงสร้างของปฏิเสธ ซ้อนปฏิเสธ จึงได้เป็นบอกเล่า เราได้ความหมายว่า “เขาได้ส่งรายงาน .........” จึงเหลือตัวเลือกข้อ a. และข้อ c. แต่ข้อ a. บอกถึงความจาเป็นว่าต้องส่งรายงานในขณะที่โจทย์ใช้คาว่า “ needn’t ” ซึ่งแปลว่า “ไม่จาเป็น” ทาให้ตัวเลือกเป็นข้อ c. นั่นเอง
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
แบบที่ 4 แบบเติมคาศัพท์
Direction : Complete the following passage with the given words.
Passage 1
Blood has been called “the river of life” It could also be called “the living river” About 31. blood in the human body is made of 32. cells that take food and oxygen to the tissues of the body and 33. waste products. The other half is a yellowish liquid called plasma. Substances in the blood also fight germs that 34. the body and cause disease.
The heart pumps blood through the body. Blood flows from the heart to the lung, where it 35. a waste products, the gas carbon dioxide, that it 36. from the body. This gas is greeted out and, 37,. The blood picks up fresh oxygen. Blood then returns to the heart, which pumps it through the arteries to 38., Along the way, the blood delivers oxygen to all the cells of the body and collects combos dioxide from the cells. The blood returns of the heart 39. The veins. The whole 40. is repeated.
31. a. half of the total amount of b. half of the total number of
c. the half total amount of d. the half total number of
Answer a. คาว่า “ครึ่งหนึ่ง” (half) เรามักจะไม่ใช้ article “the” และคานามที่นับไม่ได้จะต้องใช้ “amount of” ไม่ใช่ “number of” ที่ใช้กับคานามที่นับได้ ทาให้ตัวเลือกจะเป็นข้อ a. ซึ่งเราจะแปลว่า “ประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณเลือดทั้งหมดในร่างกายของคน.....”
32. a. alive b. living
c. lively d. live
Answer b. เราใช้ Non-Finite Verb ประเภท Participle คือใช้เป็น adjective เพื่อขยายคานามในที่นี้ “cells” จะมีคามาขยาย จึงใช้รูปของ Participle เพื่อบอกว่าหน้าที่ของ cells จะเป็นลักษณะที่มีชีวิต คือไม่ใช่ cells ที่ถูกทาให้ตายไปแล้ว ทาให้ Participle ที่ใช้ขยาย cells จึงต้องเป็น Present Participle หรือ รูป V. ing นั่นเอง ตัวเลือกจึงเป็นข้อ b.
33. a. carry through b. carry out
c. carry off d. carry on
Answer c. การใช้กริยาที่เป็นสานวนในที่นี้จะต้องใช้กริยาที่แปลว่า “นาออกมา, ฆ่า” ในข้อ c. จึงได้ให้ความหมายที่ถูกต้อง เพราะคาอื่น เช่น carry out หมายถึง ดาเนินการหรือสาเร็จ และ carry on หมายถึง ดาเนินต่อไปก็จะไม่ได้ความหมายตรงกับข้อความที่จะเติม ส่วน carry through จะไม่มีความหมายโดยตรงกับโจทย์ที่ให้มา จึงต้องเลือกข้อ c.
34. a. invade b. attack
c. assault d. interfere
Answer a. ความหมายของคาที่นามาใช้ในส่วนนี้จะต้องแปลว่า “บุกรุก” เพราะในข้อความมีคาว่า
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
“ต่อสู้” (fight) จึงเลือกข้อ a. ส่วนคาว่า “attack” หมายถึง โจมตี คาว่า “assault” หมายถึง โจมตี, ข่มขืน, ทาลาย และคาว่า “interfere” หมายถึง เกี่ยวข้องหรือยุ่งเกี่ยว
35. a. gives in b. gives out
c. gives away d. gives up
Answer d. ความหมายที่ได้ในข้อความนี้จะต้องใช้คาศัพท์ที่แปลว่า “ทิ้งไปหรือยุติหรือเลิก” ดังในข้อ d. เพราะว่าหัวใจจะมีหน้าที่นาเลือดที่ดีผลักดันไปสู่การให้ร่างกายได้ใช้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ต่อไป แต่เลือดที่ไม่ดีก็จะถูกนาไปทิ้งหรือฟอกใหม่อีกครั้ง ซึ่งคาตอบจะตรงกับข้อ d. ส่วนคาว่า “give in” หมายถึง ยอมแพ้ คาว่า “give out” หมายถึง ปล่อย หรือแจกจ่าย และคาว่า “give away” หมายถึง ยกให้หรือเสียสละ
36. a. collected b. is collected
c. has collected d. has been collected
Answer c. การใช้โครงสร้างในประโยคนี้จะต้องเป็น Present Perfect Tense ที่เป็น Active Voice
เพราะเป็นกระบวนการของร่างกายที่ดาเนินเรื่อยมาโดยตลอด โดยที่มีร่างกายโดยตลอด โดยที่มีร่างกายเป็นผู้กระทาหรือดาเนินการให้อวัยวะต่างๆ ทางานเรื่อยมา จึงทาให้ต้องใช้ Tense ดังกล่าวนี้ ตัวเลือกที่ได้จึงต้องเป็นข้อ c. เท่านั้น
37. a. exchange b. changes
c. in exchange d. changed
Answer c. ความหมายที่ได้ในข้อมูลนี้น่าจะหมายถึง “ในลักษณะเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน” เป็นการใช้โครงสร้างในรูปของวลีในประโยคนี้จะทาให้ได้ข้อความที่ชัดเจนกว่าการใช้คาเพียงคาเดียวตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดจึงต้องทาให้เลือกข้อ c. นั่นเอง
38. a. the whole body b. the whole bodies
c. whole body d. whole bodies
Answer a. ความหมายที่ได้ในประโยคนี้จะบ่งบอกถึงการใช้รูปคาและความหมายที่ชี้เฉพาะเจาะจงว่า “ร่างกายทั้งหมดนี้เท่านั้น” และหมายถึงร่างกายของคนเราเพียงคนเดียวตัวเลือกที่ดีที่สุดจึงเป็นข้อ a. เท่านั้น
39. a. by b. through
c. by way d. by means
Answer b. ความหมายที่เกิดขึ้นในข้อนี้จะหมายถึงการที่ร่างกายนาเลือดไปสู่หัวใจโดยผ่านเม็ดโลหิตดา เพื่อเป็นการสร้างกลไกและการทางานของโลหิตที่เกิดจากอวัยวะดังกล่าว ทาให้ต้องใช้คาเชื่อมหรือ Preposition ที่เป็นความหมายให้เกิดการเคลื่อนที่ในลักษณะที่ผ่านมาหรือผ่านไปจึงต้องใช้ข้อ b. เท่านั้น
40. a. processing b. proceed
c. process d. proceeding
Answer c. ความหมายในข้อนี้ต้องใช้คานามที่เป็นประธานคือข้อ c. เท่านั้นที่จะแปลว่า “กระบวนการ” จึงจะได้ความหมายที่ถูกต้อง ส่วนข้อ a. แปลว่า “กระบวนการ” จึงจะได้ความหมายที่ถูกต้อง ส่วนข้อ a.
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
แปลว่า “ขบวนแห่” ข้อ b. เป็นคากริยา หมายถึง ดาเนินการหรือคานามที่แปลว่า การดาเนินการ และข้อ d.จะใช้ในรูปแบบที่คล้ายกับข้อ b. ซึ่งให้ความหมายเหมือนข้อ b. ในแบบเดียวกัน จึงเลือกข้อ c.
41. Since his mother left, the little boy ....… for fifteen minutes.
a. cried b. has been cried
c. had cried d. has been crying
Answer d. ใช้ Present Perfect Continuous Tense (s. + has/have + been + V.ing) เพื่อแสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันและค่อนข้างแน่นอนว่าจะดาเนินต่อไปในอนาคตโดยมักมีคาบอกเวลา “for/since”
42. ............... Roti a kind of Thai food ?
a. Has b. Have
c. Are d. Is
Answer d. สามารถใช้ “is / am / are” เป็น v. แท้ในความหมาย “เป็น/อยู่/คือ” ในประโยค Present Simple Tense โดยผันให้สอดคล้องกับประธานและเมื่อทาเป็นประโยคคาถามประเภท”Yes / No Question” จะวางคาเหล่านี้ไว้หน้าประโยค
43. I’ m tried. I ………. To bed right now.
a. have gone b. would go
c. am going d. goes
Answer c. ใช้ Present Continuous Tense (s. + is / am / are + V.ing) แสดงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้และค่อนข้างแน่นอน โดยมักมีคาบอกเวลาแสดงอนาคต เช่น “tomorrow, soon, tonight, in one minute, in a few minute, in a few minutes, next week ”
44. Her nose is ………………and ………………….
a. more pointed ; more perfect b. pointed ; perfect
c. pointed ; more perfect d. more pointed ; perfect
Answer b. คาคุณศัพท์ (adj.) ที่มีความหมายสมบูรณ์ในตัวอยู่แล้วจะไม่มีการเปรียบเทียบ (ไม่มีการเติม –er หรือ most) ได้แก่
Circular entire factual immoral perfect square
Dead equal false moral round true
45. Dara is the oldest student……………..
a. than the one b. in her class
c. among others d. between the four
Answer b. การเปรียบเทียบคาคุณศัพท์ในชั้นสูงสุดเป็นการเปรียบเทียบระหว่างประธานกับกลุ่มคน สัตว์ หรือสิ่งของ ในบริเวณหนึ่งหรือเวลาหนึ่ง โดยมีโครงสร้าง ดังนี้
n. l + be / linking v. + the + adj. + est / most + adj. + in place / in time
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
46. On the day of the accident, everybody …………… to go upcountry.
a. would prepare b. was preparing
c. had been prepared d. preparing
Answer b. ใช้ “Past Continuous Tense (s. + was / were + v. ing) บอกเล่าเหตุการณ์หรือการกระทาที่กาลังดาเนินอยู่ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต โดยมักจะมีคาบอกเวลา เช่น this time last night / week / month / year, st 11’ o’clock last night, this time yesterday
47. That sports car has stopped ; it ……………. of gasoline.
a. has run out b. ran out
c. will run out d. is running out
Answer a. ใช้ Present Perfect Tense (s. + has / have + v.3) กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดไปแล้ว แต่ก็ยังคงเห็นผลการกระทาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
48. Daisies ……….. in the meadows in the country.
a. has grown b. Grow
c. is growing d. Grew
Answer b. ใช้ Present Simple Tense (s. + v. ผันตาม s.) แสดงข้อความที่เป็นจริงโดยธรรมชาติหรือ โดยทั่วๆ ไป ตลอดจนสุภาษิตและคาพังเพย
49. She thinks her mother ……… the gift I bought for her.
a. will like b. will be liked
c. will have liked d. Would like
Answer d. ใช้ Past Simple Tense (s. + v.2) เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยไม่จากัดเวลา ซึ่งบางครั้งจะมีคาหรืออนุประโยคที่แสดงถึงเวลาในอดีตกากับอยู่ด้วย
50. He had done his laundry before he ……… TV.
a. watched b. had been watched
c. watching d. was watching
Answer a. ใช้ Past Perfect Tense (s. + had + v.3) คู่กับ Past Simple Tense (s. + v.2) เพื่อแสดงถึงเหตุการณ์หรือการกระทาที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกัน โดยใช้ Past Perfect กับเหตุการณ์ที่เกิดก่อน และใช้ Past Simple กับเหตุการณ์ที่เกิดทีหลัง ซึ่งมักจะมีคาเชื่อมบอกเวลาอยู่ด้วย
51. Somsri said she ……… an appointment nest week.
a. has cancelled b. was being cancelled
c. had cancelled d. would be cancelled
Answer c. ใช้ Past Perfect Tense (s. + had + v.3) เพื่อบอกให้ทราบถึงคาพูดหรือความคิดต่อเหตุการณ์หนึ่งในอดีต
52. She needs ………. Hours to finish the homework.
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
a. a b. an c. the d. (blank)
Answer b. ใช้ article “a / an” นาหน้า n. นับได้เอกพจน์ในความหมายว่า “หนึ่ง” โดยใช้ “a” หน้า n. ที่ขึ้นต้นด้วยเสียงพยัญชนะ และใช้ “an” หน้า n. ที่ขึ้นต้นด้วยเสียงสระ
53. ……….. solution is acceptable to the crowed, so they will continue their public meeting.
a. Many b. Neither c. Both d. Several
Answer b. คาบอกปริมาณต่อไปนี้ใช้นาหน้า n. นับได้เอกพจน์ และใช้ v. เอกพจน์
54. A : Does this car belong to you?
B : No, it’s ……… car.
a. their b. theirs
c. they d. them
Answer a. Possessive Adjectives คือ บุรุษสรรพนามที่ทาหน้าที่เป็นคาคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ จึงต้องมี n. ที่มันขยายตามมาเสมอ ได้แก่ my, your, our, their, his, her, its
ข้อสังเกต : หลังช่องว่างเป็น n. (car) their car (รถของพวกเขา)
55. A : What’s the matter with Sue?
B: I didn’t know. Does she have ……….. cancer?
a. a b. an
c. the d. (blank)
Answer d. ไม่ใช้ article กับ n. ที่เป็นชื่อโรคชนิดต่างๆ (ยกเว้นความเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ) เช่น (cancer, heart disease, tuberculosis, malaria, AIDS, measles, mumps
56. In Thai culture, ………… are greatly respected.
a. the old b. elder
c. an old d. older
Answer a. ใช้ article “the” นาหน้า adj. เพื่อทาให้คานั้นกลายเป็น n. แล้วตัด n. ที่ตามหลัง adj. นั้นออก เช่น old (อาวุโส) the old (ผู้อาวุโส)
2. Conversation
สาหรับการทาข้อสอบ conversation ให้ได้คะแนนดี มีหลักควรจาดังนี้
3. ต้องอ่านคาสนทนาที่คนหนึ่งอาจจะถามหรือตอบให้เข้าใจเสียก่อน
4. ต้องคานึงถึงการใช้ภาษาพูดตามแบบที่นิยมและมีความเหมาะสม เหมาะกับเหตุการณ์
5. เมื่อเลือกคาตอบได้ ลองอ่านและพิจารณาบทสนทนาที่สมบูรณ์นั้นโดยเละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
57. Your friend has received a scholarship to study in a prestigious university. You say to him, “….”
a. I see nothing wrong with it. b. Congratulations! You deserve it.
c. That’s incredible. I don’t believe you. d. How did it happen? You never told me.
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
Answer b. Congratulations! You deserve it. ขอแสดงความยินดีด้วย คุณสมควรจะได้รับมัน
58. A beauty advisor is trying to persuade a customer to buy some moisturizer. She says, “……”
a. Don’t fight a losing battle. b. Let bygones be bygones.
c. Whatever will be will be. d. Look ten years younger.
Answer d. Look ten years younger. ทาให้ดูอ่อนลง 10 ปี
59. Your friend asks if you would like something to drink. You say : “………”
a. Something, just water. b. I like water, don’t you?
c. Just some water, please. d. Can I get you some water?
Answer c. Just some water, please. ขอเพียงน้า
60. When a customer complains that the spoon is dirty, the waiter apologizes and says, “…….”
a. Please excuse us. b. Don’t mention it.
c. I’ll bring you a new one. d. Why don’t you use chopsticks instead?
Answer c. I’ll bring you a new one. ผมจะเอาอันใหม่มาให้ครับ
แบบทดสอบการพัฒนาบุคลิกภาพ
แนวข้อสอบจานวน 100 ข้อ
1. Stability คือคนประเภทใด
ก. คนที่มีอารมณ์แปรปรวน ข. คนที่มีสุขภาพจิตดี
ค. คนที่ชอบความตื่นเต้น ง. คนที่มีความอ่อนไหว
ตอบ ข. คนที่มีสุขภาพจิตดี
2. Id หมายถึงอะไร
ก. สภาพจิตใต้สานึก ข. เป็นส่วนของจิตไร้สานึก
ค. การเรียนรู้ในการปรับตัว ง. หลักแห่งความจริง
ตอบ ก. สภาพจิตใต้สานึก
3. แรงจูงใจแสวงหาและรักษาศักดิ์ศรีเกียรติยศเป็นแรงจูงใจลาดับที่เท่าใดของมาสโลว์
ก. 1 ข. 2
ค. 3 ง. 4
ตอบ ง. 4
4. Extrovert เป็นคนอย่างไร
ก. มองโลกแง่ร้าย ข. เป็นคนเก็บตัว
ค. เจ้าระเบียบ ง. ชอบเข้าสังคม
ตอบ ง. ชอบเข้าสังคม
5. แรงจูงใจเพื่อเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ เป็นแรงจูงใจลาดับที่เท่าใดของมาสโลว์
ก. 1 ข. 2
ค. 3 ง. 4
ตอบ ค. 3
6. กล่าวกันว่าสิ่งใดก็ตามหากเราอดทนพยายามทาติดต่อกันไปเป็นเวลาเท่าใด สิ่งนั้นจะกลายเป็นนิสัย
ของเรา
ก. 120 วัน ข. 90 วัน
ค. 45 วัน ง. 30 วัน
ตอบ ค. 45 วัน
7. พัฒนาการของบุคลิกภาพขั้นปากเริ่มตั้งแต่อายุเท่าใด
ก. แรกเกิด -1 ปี ข. 1-2 ปี
ค. 33-5 ปี ง. 6-11 ปี
ตอบ ก. แรกเกิด -1 ปี
8. นิสัย หมายถึงอะไร
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ก. การพูดโกหก ข. ธาตุแท้
ค. แววของจิต ง. แววของความถนัด
ตอบ ก. การพูดโกหก
9. ผู้หญิงที่มีอายุ 45 ปี แต่ชอบแต่งตัว แบบสาวรุ่น เป็นกลไกป้องกันตนเอง เรียกว่าอะไร
ก. การยึดติด ข. การถดถอยกลับ
ค. การเลียนแบบ ง. การเก็บกด
ตอบ ข. การถดถอยกลับ
10. อัธยาศัย หมายถึงอะไร
ก. ความคิด ข. พื้นเพของจิตใจ
ค. ความชอบ ง. ความมักง่าย
ตอบ ข. พื้นเพของจิตใจ
11. เมื่อเราได้รับสิ่งที่เราพึงพอใจ สิ่งที่ตอบสนอง ความต้องการของเราจะเป็นเช่นใด
ก. มีความสุข ข. มีความฝัน
ค. มีจินตนาการ ง. ไม่มีความท้อแท้
ตอบ ก. มีความสุข
12. เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เราต้องเผชิญในชีวิตประจาวัน จะส่งผลให้เราเกิดอารมณ์อย่างไร
ก. เคยชิน ข. เศร้าใจเจอเรื่องไม่ดี
ค. แตกต่างกัน ง. ตื่นเต้น
ตอบ ค. แตกต่างกัน
13. อารมณ์ หมายถึงข้อใด
ก. สนุกชื่นชม ข. โกรธ
ค. ความรู้สึกต่างๆ ง. พึงพอใจ
ตอบ ค. ความรู้สึกต่างๆ
14. นิสัยใจคอหรืออุปนิสัยได้แก่ข้อใด
ก. พฤติกรรม ข. ความกระตือรือร้น
ค. สติปัญญา ง. การควบคุมตนเอง
ตอบ ก. พฤติกรรม
15. พฤติกรรมที่แสดงออกจะส่งผลสู่กระบวนการความคิดเป็นอะไร
ก. จินตนาการ ข. ท่าทาง
ค. ความรู้สึก ง. จิตสานึก
ตอบ ค. ความรู้สึก
16. ข้อใดเป็นภาพลักษณ์ที่ปรากฏ
ก. ความมีน้าใจ ข. รู้จักเหตุผล
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ค. รูปร่างหน้าตา ง. การควบคุมตนเอง
ตอบ ค. รูปร่างหน้าตา
17. มโนทัศน์เป็นเหมือนอะไร
ก. ความคิด ข. จินตนาการ
ค. การฝัน ง. ความคิดรวบยอด
ตอบ ง. ความคิดรวบยอด
18. การที่นายสมศักดิ์ เป็นคนชอบสังคมเป็นเกณฑ์การประเมินบุคลิกภาพด้านใด
ก. อารมณ์ ข. ความสามารถเฉพาะตน
ค. สังคม ง. นิสัยใจคอ หรืออุปนิสัย
ตอบ ค. สังคม
19. พวกความรอบรู้ จะสร้างรูปที่เรียกว่าอะไร
ก. พฤติกรรม ข. อารมณ์
ค. ปัญญา ง. ลักษณะนิสัย
ตอบ ค. ปัญญา
20. ข้อใดเป็นเกณฑ์การประเมินบุคลิกภาพด้านสติปัญญา
ก. ทรวดทรง ข. ความเสียสละ
ค. ความซื่อสัตย์ ง. จินตนาการ
ตอบ ง. จินตนาการ
21. ในการเข้าสังคมสิ่งใดมีความสาคัญมากที่สุด
ก. การสนทนา ข. การรับประทานอาหาร
ค. การควบคุมอารมณ์ ง. มารยาทในการฟัง
ตอบ ก. การสนทนา
22. บุคลิกภาพหรือบุคลิกลักษณะใดไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ก. ความเกียจคร้าน ข. ความไวทางอารมณ์
ค. ความสูง สีผิว ง. ความไวทางสังคม
ตอบ ค. ความสูง สีผิว
23. ความไวทางอารมณ์ คือข้อใด
ก. การแสดงออกทางสีหน้า ข. ปรับเปลี่ยนบทบาทได้อย่างรวดเร็ว
ค. การใช้ท่าทางโดยไม่ใช้คาพูด ง. สามารถอ่านความรู้สึกของคู่สนทนาได้
ตอบ ง. สามารถอ่านความรู้สึกของคู่สนทนาได้
24. การพัฒนาปรับปรุงตนเองในข้อใดทาได้ง่ายและเร็วที่สุด
ก. ด้านจิตใจ ข. ด้านแต่งกาย
ค. ด้านร่างกาย ง. การทางาน
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ตอบ ก. ด้านจิตใจ
25. การวิเคราะห์โดยเปิดเผย การวิเคราะห์โดยตรง คือ การที่เราต้องทาอย่างไร
ก. ทาใจยอมรับ ข. อดทน
ค. เปิดใจยอมรับ ง. โต้แย้งบางเรื่อง
ตอบ ค. เปิดใจยอมรับ
26. การวิเคราะห์ตนนั้นมีจุดประสงค์หลักคือเพื่ออะไร
ก. ต้องการทราบจุดเด่น ข. ต้องการทราบจุดอ่อน
ค. ต้องการทราบจุดด้อย ง. ต้องการทราบจุดเด่นและจุดด้อย
ตอบ ง. ต้องการทราบจุดเด่นและจุดด้อย
27. สิ่งที่เป็นปัญหาสาหรับการหาจุดอ่อนคือข้อใด
ก. ไม่ต้องการหาจุดอ่อน ข. พยายามหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง
ค. ทาใจไม่ได้ ง. จุดอ่อนต้องปกปิดไว้
ตอบ ข. พยายามหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง
28. การมองตัวตนส่วนที่เปิดเผยพัฒนาได้ง่ายเป็นการมองตนเองส่วนใด
ก. ส่วนที่ตนเองเห็น-คนอื่นไม่เห็น ข. ส่วนที่ตนเองเห็น-คนอื่นเห็น
ค. ส่วนที่ตนเองไม่เห็น-คนอื่นเห็น ง. ส่วนที่ตนไม่เห็น-คนอื่นไม่เห็น
ตอบ ข. ส่วนที่ตนเองเห็น-คนอื่นเห็น
29. การทางานในหน่วยงานด้านธุรกิจ เราจะต้องมีลักษณะเช่นใด
ก. พูดตรงไปตรงมา ข. มีความเมตตากรุณา
ค. มีเสน่ห์ประทับใจ ง. มองการณ์ไกล
ตอบ ง. มองการณ์ไกล
30. บุคลิกภาพที่เหมาะสม ควรสอดคล้องกับอะไร
ก. ตนเอง ข. บทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ
ค. ครอบครัว ง. สุขภาพร่างกาย
ตอบ ข. บทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ
31. ขั้นตอนการทางานของสมองในรูปแบบต่าง ๆ ที่ถือว่าเป็นพฤติกรรมภายในมีกี่ลักษณะ
ก. 3 ลักษณะ ข. 4 ลักษณะ
ค. 5 ลักษณะ ง. 6 ลักษณะ
ตอบ ข. 4 ลักษณะ
32. ข้อใดไม่ใช่พฤติกรรมที่เป็นความรู้สึกจากการสัมผัส
ก. การเห็น ข. การได้ยิน
ค. การจาเสียงโทรศัพท์ได้ ง. การได้กลิ่น
ตอบ ค. การจาเสียงโทรศัพท์ได้
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
33. ข้อใดไม่ใช่พฤติกรรมตามการแบ่งของลุฟท์และอิงแฮม
ก. เปิดเผย ข. ความลับ
ค. จุดเด่น ง. จุดบอด
ตอบ ค. จุดเด่น
34. พฤติกรรมของมนุษย์โดยทั่วไปจะแสดงออกในส่วนใดบ้าง
ก. สมอง ข. ร่างกาย
ค. จิตใจ ง. ข้อ ข. และ ค. ถูกต้อง
ตอบ ง. ข้อ ข. และ ค. ถูกต้อง
ข้อ 35-36 ให้ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ตอบคาถามวัตสันนักจิตวิทยา ได้แบ่งพฤติกรรมของ
S O R
ก. สิ่งเร้า
ข. อินทรีย์
ค. การตอบสนอง
ง. พฤติกรรม
35. S คืออะไร ก. สิ่งเร้า
36. R คืออะไร ค. การตอบสนอง
37. “EEC” คืออะไร
ก. การสังเกตการเคลื่อนไหวของตาดา ข. การวัดสภาพจิตของบุคคล
ค. การวัดกระแสไฟฟ้าใต้ผิวหนัง ง. การวัดคลื่นสมองของมนุษย์
ตอบ ง. การวัดคลื่นสมองของมนุษย์
38. ข้อใดเป็นพฤติกรรมภายนอกของมนุษย์
ก. พฤติกรรมโมลาร์ ข. ตา –หู
ค. จมูก-ตา ง. ลิ้น-จมูก
ตอบ ก. พฤติกรรมโมลาร์
39. ข้อใดคือความหมายของพฤติกรรม
ก. การกระทาของมนุษย์ทางด้านกายกรรม ข. การกระทาของมนุษย์ทางด้านวจีกรรม
ค. การกระทาของมนุษย์ทางด้านมโนกรรม ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
40. พฤติกรรมมีความสาคัญต่อตัวบุคคลอย่างไร
ก. ง่ายต่อการจดจาบุคคล ข. ง่ายต่อการเข้าใจบุคคล
ค. ช่วยให้มีความมั่นใจตนเอง ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
41. มุ่งให้ความสนใจ ฝักใฝ่จริงจังกับเรื่องที่กระทานั้นเป็นความหมายของข้อใด
ก. ฉันทะ ข. จิตตะ
ค. วิริยะ ง. วิมังสา
ตอบ ข. จิตตะ
42. การช่วยเหลือให้คาปรึกษาแก่ลูกน้องคือจริยธรรมข้อใด
ก. ความซื่อสัตย์ ข. การเสียสละ
ค. ความรับผิดชอบ ง. อดทน
ตอบ ค. ความรับผิดชอบ
43. ความรับผิดชอบ คือข้อใด
ก. จริยธรรม ข. พรหมวิหาร 4
ค. คุณธรรม ง. อิทธิบาท 4
ตอบ ก. จริยธรรม
44. ข้อใดไม่ใช่พรหมวิหาร 4
ก. เมตตา ข. กรุณา
ค. อุเบกขา ง. ฉันทะ
ตอบ ง. ฉันทะ
45. จิตสานึกที่ดีนั้นเป็นอย่างไร
ก. จิตบริสุทธิ์ ข. ตัวคุณธรรมซึ่งอยู่ภายในจิตใจ
ค. ตัวคุณธรรม ง. การปฏิบัติดี
ตอบ ข. ตัวคุณธรรมซึ่งอยู่ภายในจิตใจ
46. ข้อใดไม่ใช่การตรงต่อเวลา
ก. ในการเริ่มทางานไม่มาทางานสาย
ข. ขณะทางานใช้เวลาไปทาธุระส่วนตัว
ค. หลังทางานไม่เลิกก่อนเวลา
ง. อุทิศเสียสละเวลาโดยทางานนอกเวลาเพราะงานไม่เสร็จ
ตอบ ข. ขณะทางานใช้เวลาไปทาธุระส่วนตัว
47. จริยธรรมหมายถึงข้อใด
ก. การยอมรับผิด ข. การเอาใจใส่
ค. ความมีระเบียบวินัย ง. การยอมให้อภัย
ตอบ ค. ความมีระเบียบวินัย
48. สังคมมนุษย์แตกต่างจากสัตว์โลกทั้งหลายเนื่องมาจากอะไร
ก. ระเบียบข้อปฏิบัติ ข. ความซื่อสัตย์
ค. จิตสานึกและความรับผิดชอบ ง. ความมีเมตตา
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ตอบ ค. จิตสานึกและความรับผิดชอบ
49. สิ่งใดเป็นเครื่องเร้าเตือนควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์
ก. ความรับผิดชอบ ข. จิตใจ
ค. สติ ง. อารมณ์
ตอบ ค. สติ
50. การที่มนุษย์มีความรับผิดชอบตามพฤติกรรมที่แสดงออกมานั้นเกิดจากอะไร
ก. การได้รับรู้หลักพรหมวิหาร 4 ข. การได้รับรู้หลักคุณธรรม จริยธรรม
ค. การได้รับรู้หลักอิทธิบาท 4 ง. การอบรมสั่งสอน
ตอบ ข. การได้รับรู้หลักคุณธรรม จริยธรรม